กรณีมีการแชร์คลิปกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ขับรถกระบะอีซูซุ สีเทา และรถกระบะ สีแดง ยี่ห้อเดียวกัน ใช้ปืนสงคราม และปืนพกสั้นยิงขึ้นฟ้าด้วยความคึกคะนอง บนถนนมโนราห์ (ถนนบายพาส) เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เยื้องร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง (ร้านเพลิน) ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้านที่เข้าไปใช้บริการในร้านอาหารดังกล่าว และร้านอาหารข้างเคียง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ใช้บริการของกลุ่มนักเที่ยวและกลุ่มวัยรุ่น เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการแสดงพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม กันจำนวนมาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวขณะนี้ตำรวจสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานรู้ชื่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 ราย ส่วนของรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดก็รู้แล้วเช่นกัน ผู้ก่อเหตุรวม 5 คน รถยนต์ 2 คัน มอบตัวแล้ว 1 ราย ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นเป็นกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนองในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แต่บางส่วนไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้กำลังติดตามตรวจยึดรถทั้ง 2 คัน และขยายผลการสืบสวนสอบสวนไปตรวจยึดปืนสงคราม เอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรถกระบะสีแดงที่ปรากฎเป็นรถของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หรือไม่ พล.ต.ต.ตานิตย์ กล่าวว่า กำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนตรวจสอบตามขั้นตอน จึงยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนการคลี่คลายคดีนั้นได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก เข้าคลี่คลายคดี สำหรับโรงพักที่ไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหากระทำความผิดในคดีอุกฉกรรจ์มาลงโทษตามกฎหมายได้มี 6 โรงพัก ล่าสุดเป็น สภ.เมืองพัทลุง ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา 1 ราย เข้ามามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบกับปลอกกระสุนที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุกันต่อไปว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตามที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มีหนังสือสั่งการให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกตุขาว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.ท.นาถพล บุญสนิท รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.หาญพล รามด้วง รอง ผกก.สส. 3 เสือของ สภ.เมืองพัทลุง ขึ้นไปพบและรายงานตัวต่อที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้ (วันที่ 2 พ.ค.) จะเป็นการเรียกไปว่ากล่าวตักเตือนข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น พล.ต.ต.ตานิตย์ เผยว่า เป็นการเรียกไปเพื่อวางมาตรการในเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามการนำอาวุธปืนสงครามมาก่อเหตุในเมือง และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ มิได้เรียกไปทำโทษแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ตานิตย์ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลการออกใบอนุญาตอาวุธปืนของ จ.พัทลุง ซึ่งขณะนี้มีมากถึงประมาณ 50,000 กระบอก ขณะที่ จ.สตูล มีแค่ประมาณ 5,000 กระบอกเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนนี้การจะอนุญาตให้มีอาวุธปืนนั้นผู้เกี่ยวข้องจะต้องมีหนังสือมายังกองทะเบียนตำรวจ เพื่อตรวจสอบทะเบียนประวัติหากมีประวัติการมีอาวุธปืนอยู่แล้วก็ออกให้ไม่ได้ตามมาตรา 13 และบุคคลที่จะก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนก็ห้ามอนุญาตให้มีอาวุธปืนตามมาตรา 13 เช่นกัน