จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ น.ส.วราพร อิ่มอาหาร อายุ 40 ปี สาวสวยพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายใช้เสื้อผ้ารัดคอ ใช้ของแข็งทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิต แล้วนำร่างทิ้งลงในคลองบางพระครู หมู่ 3 ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นคนร้ายได้เผาเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตเพื่อทำลายหลักฐาน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 28 ก.ค. ที่ สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภนศึกษา ชาเรณู ผกก.สภ.บางปะหัน ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สภ.บางปะหัน และสภ.บ้านขล้อ เข้าประชุมหาความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ทุบหน้าฆ่าเปลือย ‘ฉันทนาสาวสวย’ ศพทิ้งคลอง สยองเมืองกรุงเก่า

ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า ช่วงหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนพยานทุกคนที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ซึ่งมีข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์พอสมควร นำมาประชุม เพื่อวางแนวทาง การสอบสวน พร้อมกับรอผลการชันสูตรศพและผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์จากร่างกายของผู้ตาย จากวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ

“เรายังไม่ตัดประเด็นอะไรออกไปทั้งในเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว ฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนเรื่องของการที่ผู้เสียชีวิตปล่อยเงินกู้ จากการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นการให้คนที่รู้จักกันยืมเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น” รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

ขณะที่ วัดทางกลาง ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิษณุ อิ่มอาหาร สามี ญาติ และบรรดาเพื่อนสนิท ของผู้เสียชีวิต ได้นำร่างของ น.ส.วราพร มาประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเป็นด้วยความโศกเศร้า จะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 2 คืน หลังจากนั้นจะมีการฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 31 ก.ค. โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายวิษณุ ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูปเดินทางไปยังจุดที่พบศพ น.ส.วราพร บริเวณริมคลองบางพระครู เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ

ด้านนายวิษณุ สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองได้มาเชิญดวงวิญญาณภรรยากลับบ้าน และตนเองสัมผัสได้ว่าภรรยาตามตนเองมา จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนประเด็นที่ภรรยาตนเองถูกฆาตกรรมที่มีข่าวว่าภรรยาตนเองเชื่อมโยงปล่อยเงินกู้นั้น เป็นเพียงแค่การยืมเงินกันไม่มากมาย และไม่น่าใช่สาเหตุอย่างแน่นอน ส่วนปัญหาอื่นๆ ภรรยาตนเองก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เพราะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่มีการขัดแย้งกับใครจึงไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด

อย่างไรก็ตามรายงานจากชุดสืบสวนที่ติดตามคดีนี้ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่มีพยานระบุว่า พบเห็นรถกระบะติดตามผู้เสียชีวิตขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เนื่องจากเป็นเส้นทางเปลี่ยวไม่ค่อยมีบ้านเรือนประชาชนและอยู่ห่างจากถนน จึงต้องตรวจสอบภาพอย่างละเอียด พร้อมกับสอบพยานเพื่อนร่วมงานในช่วงเวลาเดียวกันผู้ตายทุกคนอย่างละเอียด.