จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.ขุนทะเล ได้จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศได้ 5 ราย เมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 และดำเนินคดีผู้ใช้บริการอีก 11 ราย รวม 16 ราย ซึ่งพนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้วแต่ยังมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มเติม จึงได้มีการสอบสวนขยายผล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร สืบสวนขยายผล และได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งข้าราชการครู, นายแพทย์และทหาร ลูกชายนักการเมือง

ทั้งนี้จากการสอบสวนมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระดับรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน และนายเอ็มเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาด้วย ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในข้อหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนสืบสวนกระบวนการค้ามนุษย์ และแทรกแซงรวมถึงปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 157 ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งสำนวนการสอบสวนให้กับ ป.ป.ช. ส่วนเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก ที่เป็นเหยื่อและความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 157 ขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวนกระบวนการสืบสวนสอบสวน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา ในความผิดซื้อบริการทางเพศเด็ก ได้เพิ่มอีก 4 ราย หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สืบสวนขยายผล จากการช่วยเหลือเด็กหญิงรายหนึ่งจากแก๊งซาเซโม และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพิ่มเติมอีก 8 รายประกอบด้วยแม่เล้า 1 ราย ผู้สนับสนุน 2 ราย และผู้ซื้อบริการ 5 ราย โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้สนับสนุนได้ทั้ง 2 ราย และผู้ซื้อบริการ 3 ราย และอายัดตัวเจ๊น้ำ แม่เล้าที่ฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี

โดยผู้ต้องหาซื้อบริการทางเพศที่ถูกศาลออกหมายจับในคดีที่ 3 ประกอบด้วยผู้ซื้อรายใหม่จำนวน 2 ราย และผู้ซื้อรายเก่า 3 ราย คือ นายแสงโรจน์ หรือ อ้วน กาญจนะ ลูกชายอดีตนักการเมืองชื่อดังของ จ.สุราษฎร์ธานี นายคำนึง ประธานสภา อบต.แห่งหนึ่ง และ นายจำลอง ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งในการเข้าจับกุมครั้งนี้ นายแสงโรจน์ ยังคงหลบหนี

รายงานข่าวรายงานด้วยว่า ในการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ พบว่ากลุ่มบุคคลผู้ให้บริการทางเพศ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกแก๊งซาเซโม ซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 500 คน และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า แก๊งซาเซโมมีการสร้างเว็บเพจ ขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 2016  เพื่อเป็นที่รวมกลุ่มของสมาชิกซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีผู้ก่อตั้งคือมี่เปิ้ล หรือ เจ๊เปิ้ล และมี เจ๊น้ำ เป็นบุคคลสำคัญของกลุ่ม และจากการเชิญตัวสมาชิกรายหนึ่ง มาซักถาม พบว่ากลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่ต้องการเข้าร่วมในเว็บเพจดังกล่าว จะต้องมีการตั้งบัญชีชื่อผู้ใช้ที่มีคำว่า “ซาเซโม”จากนั้นจึงสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมหรือแสดงความคิดเห็นในกลุ่มได้ อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ามี่เปิ้ล จะทำหน้าที่ชักชวนเด็กๆ ที่มีแนวโน้มขายบริการทางเพศ โดยมี เจ๊น้ำ และโอปอและสมาชิกในกลุ่มอีกอย่างน้อย 5 คน ทำหน้าที่ส่งงานให้กับเด็กที่เต็มใจ แต่หากมีลูกค้าที่สนใจสมาชิกในกลุ่มแต่เด็กไม่เต็มใจ ก็จะใช้วิธีขู่บังคับ ตบตี หรือให้ออกจากกลุ่ม

ทางด้าน พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในทางสืบสวนพบว่าเด็กสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ที่เป็นสมาชิกแก๊งซาเซโม มีแนวโน้มและสุ่มเสี่ยงขายบริการทางเพศประมาณ 20 คน และอีกประมาณ 30 คน อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 17 ปี ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จึงได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าติดตามพฤติกรรม และสอดส่องการรวมกลุ่มของกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอมาตรการตรวจเยี่ยมเป็นรายบุคคลเพื่อเฝ้าระวัง

สำหรับการปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ (ค้าประเวณีเด็ก) ของศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร) ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 7พ.ย. 2564 ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 41 ราย แบ่งเป็น แม่เล้า 12 ราย ผู้ซื้อบริการ 28 ราย และผู้สนับสนุน 1 ราย คุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 10 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนผังที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลง ยังมีผู้ต้องหาหลบหนี อีก 2 คน หนึ่งในนั้น เป็นลูกชายอดีตนักการเมืองชื่อดัง ใน จ.สุราษฎร์ธานี นายแสงโรจน์ หรือ โอม หรือ อ้วน กาญจนะ ลูกชายอดีตนักการเมือง ถูกออกหมายจับ ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อเดือน ก.พ.2565 ตามรายงาน ลูกชายอดีตนักการเมือง มีประวัติก่อคดีอาชญากรรมหลายคดี

“บิ๊กโจ๊ก”ฟันรองอธิบดีดย. โทรฯสั่งกล่อมเหยื่อค้ามนุษย์ช่วยผู้ต้องหา

 ปี 2542 คดีพยายามฆ่า ดวลปืนกับตำรวจ สภ.พุนพิน ที่ผับแห่งหนึ่ง

 ปี 2543 ยิงพนักงานขับรถสำนักงานสรรพากร ภาค 11 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตถูกจำคุก 10 กว่าปี

 ปี 2544 คดียาเสพติด ยกฟ้อง

 ปี 2548 คดีข่มขืนกระทำชำเรานักศึกษาหญิง ยกฟ้อง

 ปี 2549 คดีข่มขืนหญิงสาวชาวเมียนมา / ใช้อาวุธปืน /หน่วงเหนี่ยวกักขัง ยกฟ้อง เพราะพยานกลับประเทศ

ปี 2551 คดีข่มขืนนักเรียน ปวส. ใช้อาวุธปืนขู่บังคับ ยกฟ้อง

 ปี 2565 คดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ยังหลบหนี