เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงท้ายการประชุม ครม. นายกฯ กล่าวว่า ฝากทุกคนช่วยดูแลงานที่เกี่ยวข้อง เพราะนายกฯ ต้องเดินทางไปต่างประเทศ 4-5 วัน

ส่วนเวทีเสวนาถามมา-ตอบไปเพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19 พ.ค. ที่ห้างพารากอน จะมีรองนายกฯ ไปทุกท่าน เป็นเวทีอธิบายให้ประชาชนรับรู้ว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วและนายกฯ พร้อมจะตอบคำถามประชาชนทุกคำถาม ที่ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) ไปรวบรวมคำถามมา

นอกจากนี้ นายกฯ พูดถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่มีข่าวเสียหายหลายเรื่องทำให้กระทบกับพระพุทธศาสนา โดยขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปดูแลแก้ไข พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ พศ.ไปจัดการ และเรื่องลัทธิประหลาด ผมไม่เข้าใจพวกพระบิดาอะไรเนี่ย ที่เอาอะไรไปให้กินกัน ทั้งน้ำเน่า ทั้งอะไรต่ออะไร ทุเรศ ทำไปได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ทำไมถึงยังมีคนเชื่ออยู่”

ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสโซเชียลเรื่องสัทธิประหลาด อ้างตัวเองเป็นพระบิดาด้วยว่า “ช่วงนี้สังคมเป็นอะไร ทำไมถึงชอบเรื่องลัทธิแบบนี้” พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ในโซเชียลแชร์กัน ใครๆ เรียกผมว่าบิดา แต่ที่ศรีธัญญาเรียกผมว่าคนไข้” จึงทำบรรด าครม. และนายกฯ ต่างพากันอมยิ้มและอดขำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประชุม ครม. นายกฯ ได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง โต๊ะเดียวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า การประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมาและครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงด้วย ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ติดภารกิจไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องงานเสวนาถามมา-ตอบไปเพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค. ที่ห้างพารากอนว่า วันที่ 19 พ.ค. นายกฯ มีกำหนดปาฐกถาพิเศษ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญและผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเวทีดังกล่าวด้วยเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเชิงสร้างสรรค์ ทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อม รวมถึงคุณภาพชีวิตยุคใหม่ และกฎหมายที่สำคัญให้คนไทยได้รับคำตอบ เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่ดีกว่าต่อไป ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ เพราะถือว่าเป็นการจัดงานเสวนาที่เชิญทุกฝ่ายมาร่วมและมีการจัดนิทรรศการในเรื่องการทำงานของรัฐบาล.