จากกรณี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมทีมงานประสาน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และกำลังตำรวจ สภ.คอนสาร เข้าตรวจสอบ สำนักปฏิบัติธรรมซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งป่าในพื้นที่หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการตั้งเป็นลัทธิประหลาด กักขังผู้มาปฏิบัติธรรม และรักษาโรคโดยการให้ขี้ไคล น้ำลาย เสลด เสมหะ ไปจนถึงปัสสาวะของ “พระบิดา” เจ้าลัทธิ และในสำนักมีศพผู้เสียชีวิตอยู่ถึง 11 ศพ มีการต่อท่อน้ำเอาน้ำเหลืองจากศพมาใช้รักษาโรค ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้นำตัว นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี หรือ “พระบิดา” ไปดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอคอนสาร ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นอย่างละเอียดทุกหลังคา พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ยังปักหลักอาศัยอยู่ โดยไม่ยอมอพยพออกไป ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุม และขอให้เตรียมเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมของตนเอง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวหากยังดื้อดึงที่จะอาศัยอยู่ก็จะกลายเป็นผู้บุกรุกทันที

จากการตรวจค้นอย่างละเอียด พบว่าอาคารที่ปลูกอยู่บริเวณด้านข้างอาคารสำนักพระบิดา ด้านทิศตะวันออก จำนวน 5 หลัง ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สำหรับใช้ในการผลิตอาหาร น้ำหมัก และถังหมักน้ำปลาร้า โดยเฉพาะบ่อหมักปลาร้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการเปิดดู พบว่ามีกลิ่นคละคลุ้งจนทุกคนต้องรีบปิดจมูกทั้งที่สวมแมสก์ ยังได้รับกลิ่นทะลุผ่าน และที่น่าสังเกตพบว่าแต่ละถังที่บรรจุน้ำปลาร้ามีหนอนยั้วเยี้ยเต็มไปหมด

โดยสิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นต้องเกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก คือโรงบรรจุสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีเลขที่ อย.ผลิตสินค้าประเภทของขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม ส่งออกไปขายตามท้องที่ต่างๆ ซึ่งในแต่ละวันจะมีพ่อค้ารถเร่เข้ามารับซื้อถึงที่

นายชาญชัย ยอมรับว่า​ การนำหมายค้นมาทำการค้นในวันนี้ ตนพร้อมเจ้าหน้าที่จะดำเนินการค้นอย่างละเอียด หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น ซึ่งจากการตรวจค้นในครั้งนี้ พบว่าพบสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ บางรายการตนถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแหล่งกระทำการที่เลี่ยงกฎหมาย และกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งของที่ได้ในวันนี้จะนำกลับไปเป็นหลักฐานในการมัดตัวผู้กระทำความผิดต่อไป.