เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายจิณณะ สามศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 3 จังหวัดอุบลราชธานี เดินลาดตระเวนตามแผนป้องกันพิทักษ์ ป่าภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองยอย จนถึงบริเวณป่าภูแสยก ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านคำบาก หมู่ 6 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยและเป็นพื้นที่ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบุณฑริก กระทั่งพบท้าวไชยกร แสงอรุณ หรือพร อายุ 19 ปี ชาวลาว กำลังลักลอบตัดไม้หวงห้าม จึงปิดล้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมไม้ประดู่แปรรูป 8 เหลี่ยม ปริมาตร 1.188 ลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ยังตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิดเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมบาร์และโซ่ สีดำ ยี่ห้อ STIHL หมายเลขเครื่องลบเลือน 1 เครื่อง, ไฟฉายคาดศีรษะ 1 ชุด, คีมล็อก 1 ตัว, ประแจ เบอร์ 10, 11, 19 อย่างละ 1 ตัว รวม 3 ตัว, ประแจหกเหลี่ยม 2 ตัว, ผ้ายางสีดำ ขนาด 3×4 เมตร 1 ผืน และกระเป๋าสะพายข้าง สีเขียว 1 ใบ อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ แบบยาว 2 กระบอก แบบสั้น 1 กระบอก, ดินประสิว 1 ขวด, ฝอยมะพร้าว 1 มัด, ดอกแก๊ป 53 ดอก และลูกตะกั่ว 7 เม็ด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายจิณณะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการปราบปรามสกัดกั้นจับกุมมาโดยตลอด แต่ทางขบวนการมอดไม้ยังมีความพยายามเข้าไปลักลอบตัดไม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย นอกจากเป็นแหล่งไม้พะยูงขนาดใหญ่ ยังมีไม้ชิงชันและไม้ประดู่ เป็นไม้ที่ตลาดต้องการสูง และมีราคาแพงมาก หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะอยู่ในพื้นที่ป่า ถ้าไม่มีของกลาง ก็จะได้รับโทษแค่ปรับ พ.ร.บ.ป่าไม้ คนละประมาณ 500-1,000 บาท จึงทำให้เกิดกลุ่มตัดไม้ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงต้องทำงานด้วยความเข้มงวดและรัดกุมเพื่อรักษาสมบัติของชาติเอาไว้ให้คงอยู่สืบไป.