เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นภาพคนร้ายใช้กระสอบปุ๋ยคลุมศีรษะตัวเองเพื่อปิดบังใบหน้า และสวมเสื้อกีฬาเบอร์ 13 เข้ามาลักทรัพย์ภายในอู่ ส.การช่างชัยพรแทรกเตอร์ เลขที่ 56/1 หมู่ที่ 4 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นของนายสิทธิศักดิ์ ชูเมฆา อายุ 33 ปี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.65 เวลาประมาณ 04.30 น. ซึ่งคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนแล้ว และน่าจะเป็นมืออาชีพ เนื่องจากได้ใช้ผ้าคลุมไม้ด้ามยาวๆ ยื่นไปปิดกล้องวงจรปิดจำนวน 2 ตัว จากทั้งหมด 4 ตัว ก่อนจะขโมยแผ่นเหล็ก โซ่รถแบ๊กโฮและอุปกรณ์ที่ทำด้วยเหล็กไปหลายรายการ

ทั้งนี้ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองตรัง แล้ว ต่อมาวันที่ 25 พ.ค.65 ห่างกันเพียง 3 วัน กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายที่แต่งกายมิดชิด ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวใส่รองเท้าหุ้มข้อ แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนละคนกับคนร้ายที่ใช้กระสอบคลุมศีรษะ เพราะมีรูปร่างอ้วนท้วนกว่า และท่าทางการเดินที่ไม่เหมือนกัน ได้เข้ามาลักทรัพย์ภายในอู่ซ่อมรถแทรกเตอร์ของผู้เสียหายคนเดิม และได้ทรัพย์สินเป็นแผ่นเหล็กมูลค่าเกือบ 10,000 บาท แต่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

จากการสอบถามเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน ก็ทราบว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายรายแรก ใส่เสื้อเบอร์ 13 และใช้กระสอบคลุมศีรษะเข้าไปลักทรัพย์ในอู่ซ่อมรถต่างๆ ทั้งในตำบลนาโยงใต้ ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลบ้านควน ตำบลนาพละ และตำบลทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จึงวอนตำรวจเร่งล่าคนร้ายมาดำเนินตามกฎหมาย ก่อนจะไปก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้อีก

ด้านนายสิทธิศักดิ์ ชูเมฆา เจ้าของอู่ ส.การช่างฯ กล่าวว่า ครั้งแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 04.30 น. ได้พวกเหล็ก โซ่รถแบ๊กโฮ พวกอะไหล่เป็นหลัก ตอนวันที่ 22 พ.ค. คลุมกระสอบเข้ามาในร้าน และคงเข้าใจว่าหมดมุมกล้องแล้วซึ่งน่าจะเป็นกระสอบที่คนร้ายจัดเตรียมมาเอง ส่วนเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นวันที่ 25 พ.ค. ห่างจากครั้งแรก 3 วัน เสียหายเหยียบ 10,000 บาท และคิดว่า ไม่น่าจะเป็นคนเดียวกัน

และอยากจะฝากเตือนเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำอู่ด้วยกันที่มีเหล็กอยากให้ช่วยกันสอดส่องดูแลหน่อย เพราะพวกนี้ถือเป็นอาชีพและการมาลักทรัพย์ครั้งนี้ ค่อนข้างจะเป็นมืออาชีพ ส่วนที่อื่นที่พ่อของตนไปสอบถามและดูคลิปที่นำมาโพสต์ในกลุ่มมา ก็ทราบว่าแถวบ้านโพธิ์ แถวอู่ต้นรักจะเป็นอู่ซ่อมรถสิบล้อ ค่อนข้างจะเสียหายเยอะ เพราะเป็นเครื่องมือพวกหินเจียรพวกสว่าน เสียหายนับหมื่นบาท แต่ใส่เสื้อเบอร์ 13 เหมือนกัน ส่วนของตนครั้งที่ 1ใส่เสื้อเบอร์ 13 แต่ครั้งที่ 2 แต่งตัวมิดชิด ใส่รองเท้าหุ้มข้อ อู่อื่นที่พอไปสอบถามก็ใส่เสื้อเบอร์ 13 แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นคนๆ เดียวกันหรือไม่.