จากกรณีเจ้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าคุมตัว แอนนา ทีวีพูล หรือนายวรินทร วัตรสังข์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ข้อหา ร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยทันทีที่ แอนนา เดินทางมาถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ

ต่อมา แอนนา ได้โพสต์เคลื่อนไหวหลังถูกคุมตัว แสดงความไม่พอใจที่ถูกละเมิดสิทธิผู้ต้องหา โดยระบุว่า “สิทธิผู้ต้องหาไม่มีอยู่จริง โดน ตม.ถ่ายรูปถ่ายคลิปตั้งแต่นาทีที่ลงเครื่อง Welcome to Thailand” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘แอนนา’ โวยสิทธิผู้ต้องหาไม่มีอยู่จริง Welcome to Thailand
ด่วน! หิ้วหมายจับบุกรวบ ‘แอนนา ทีวีพูล’ คาสนามบิน ปมหวยทิพย์

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ได้โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” โดยระบุข้อความว่า

คดีแอนนาสิทธิผู้ต้องหามีอยู่จริงหรือไม่เป็นการประจานหรือไม่ #คดีแอนนาสิทธิผู้ต้องหามีอยู่จริงหรือไม่

เป็นการประจานหรือไม่​ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 7/1
ซึ่งระบุสิทธิของผู้ต้องหาไว้ชัดเจนและมาตรา 83 วรรคท้ายการจับกุมต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับนั้นต้องไม่ประจานมาตรา 84
เมื่อจับแล้วต้องเอาตัวไปที่ทำการของพนักงานสอบสวนทันที และรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรค 2
ที่เกี่ยวกับเสรีภาพเขียนชัดเจนว่าผู้ต้องหาให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ในคดีอาญาว่าผู้นั้นกระทำความผิดดังนั้นจึงปฏิบัติต่อผู้ต้องหาเหมือนผู้กระทำความผิดไม่ได้

ทั้งนี้ เนื้อหาภายในคลิป “ทนายเดชา” กล่าวว่า การจับบุคคลตามหมายจับ ต้องกระทำตามสมควร ถ้ามีการกระทำใด ที่มีลักษณะเป็นการประจาน ที่ผ่านมาศาลฎีกาเคยมีการตัดสินจำคุกตำรวจมาแล้ว เช่น จับเจ้ามือหวยเถื่อนแล้วพาไปเดินทั่วตลาด อย่างนี้ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นคดีนี้ฝากตำรวจต้องระมัดระวังในการจับเป็นการประจานหรือไม่ ก็อาจจะมีความผิดตามมาตรา 157 ส่วนคดีหวยทิพย์ แอนนา จะมีความผิดหรือไม่ ต้องไปสู้กันที่ศาล แต่ชั้นนี้เป็นเพียงผู้ต้องหาเท่านั้น ฝากไว้เป็นข้อคิดพี่น้องตำรวจ ประจานไม่ได้ ต้องจับแล้วพาไปส่งโรงพัก การถ่ายคลิป การจับ หรือการพาตระเวนต่างๆ เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงมีความผิดมาตรา 157