เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้ออกแบบการปรับปรุงระบบระบายอากาศในห้องเรียน เพื่อลดการแพร่กระจายทางอากาศของเชื้อโควิด และฝุ่น PM2.5 โดยจัดโครงการ “ห้องเรียนสะอาด” เริ่มจากโรงเรียนรอบๆ โรงพยาบาลศิริราช ได้แก่ โรงเรียนวัดอมรินทราราม โรงเรียนสตรีวัดระฆัง และสำรวจห้องเรียนเปิดหน้าต่างของโรงเรียนโฆสิตสโมสรเสร็จทันก่อนการเปิดภาคเรียน และปรับปรุงระบบระบายอากาศของห้องปฏิบัติธรรมวัดระฆังโฆสิตาราม โดย รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การควบคุมการระบาดของโควิดวิธีหนึ่งคือลดการกระจายเชื้อในพื้นที่ปิด และการพัฒนาระบบระบายอากาศในห้องเรียน เมื่ออากาศสะอาด จะทำให้สมรรถภาพปอดของเด็กเติบโตได้เต็มที่ด้วย จึงต้องออกแบบห้องเรียนอากาศสะอาด แต่ย้ำว่า การใส่หน้ากากอนามัยก็ยังมีความสำคัญ

ผศ.ดร.เอกบดินทร์ วินิจกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) วิศวกรที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า การปรับปรุงระบบระบายอากาศในโครงการนี้ มีทั้งแบบติดตั้งเครื่องเติมอากาศ และการติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องปรับอากาศ เพิ่มอากาศสะอาด เจือจางเชื้อโรคโควิดหากมีผู้ติดเชื้อในห้อง ส่วนห้องปรับอากาศที่ไม่สามารถติดตั้งพัดลมดูดอากาศ แนะนำให้เปิดหน้าต่างเพื่อช่วยระบายอากาศเป็นเวลา 3-5 นาทีทุกๆ 1 ชั่วโมง การทำงานของเครื่องเติมอากาศจะดึงอากาศจากภายนอกเข้าไปในห้องโดยผ่านไส้กรอง 2 ชั้น รวมถึงแผ่นกรองประสิทธิภาพสูง (HEPA filters) ซึ่งจะกรองฝุ่นและละอองลอยออกไปจากอากาศใหม่ที่จะเข้ามาในห้อง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสียงตอบรับของโรงเรียนในโครงการนำร่องเป็นไปด้วยดี ทำให้ในห้องเรียนหายใจได้สะดวกขึ้น และช่วยเรื่องภูมิแพ้ด้วย โดยนายเกียรติเกรียงไกร บุญทน รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวัดระฆัง กล่าวว่า เมื่อไม่มีนักเรียนป่วยจามในห้องปรับอากาศ ก็ลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อ และการเติมอากาศใหม่เข้าไปเจือจางละอองที่มีเชื้อ ย่อมลดโอกาสแพร่เชื้อไปด้วย ซึ่งโรงเรียนจะติดตามการเปลี่ยนแปลงอาการป่วยของนักเรียนและบุคลากรต่อไป.