สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวต่อที่ประชุมด้านเศรษฐกิจระดับนานาชาติ “เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อินเตอร์เนชั่นแนล อีคอนอมิก ฟอรัม” ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประณามกลุ่มประเทศตะวันตกยังคงพยายาม “บดขยี้” เศรษฐกิจของรัสเซีย ด้วยการใช้ “สงครามสายฟ้าแลบ”


ทั้งนี้ มาตรการและข้อจำกัดที่อีกฝ่าย ยังคงประกาศฝ่ายเดียวออกมาเป็นระยะ “มีแต่จะยิ่งสร้างความเจ็บปวด” ย้อนกลับไปยังอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น โดยปูตินกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของสหภาพยุโรป (อียู) สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจย้อนกลับไปสู่สมาชิกทั้ง 27 ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14 ล้านล้านบาท)


ปูติน กล่าวต่อไปว่า รัสเซียเป็นชนชาติที่แข็งแกร่งและสามารถรับมือกับความท้าทายทุกรูปแบบ และกล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา คือความทุ่มเทแรงกายแรงใจของกองทัพรัสเซีย “เพื่อพิทักษ์สิทธิและรักษาพัฒนาการของชาติ” และการปกป้อง “พลเมือง” ในภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซียหรือมีเชื้อสายรัสเซีย


อย่างไรก็ตาม นางเอลวินา นาบิลลินา ประธานธนาคารกลางรัสเซีย ยอมรับว่า เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกเช่นกัน และอาจส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) “ประมาณ 15%” ด้านสเบอร์แบงก์ซึ่งเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เผยแพร่รายงานว่า รัสเซียอาจต้องใช้เวลา “นานกว่า 1 ทศวรรษ” ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกับเมื่อปี 2564.

เครดิตภาพ : REUTERS