เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) และ น.ส.บี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ซื้อแฟรนไชส์ร้านซูชิชื่อดัง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เตชสิทธิ์ เชาวลิต รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้บริหารร้านซูชิในข้อหา “ฉ้อโกง” หลังบริษัทต้นสังกัด ไม่ส่งปลาแซลมอนและวัตถุดิบทำอาหารมาให้กับทางสาขาจนเกิดความเสียหาย
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/06/1655698710057-1024x577.jpg)
โดย นายเอกภพ เปิดเผยว่า ได้พาเจ้าของสาขาร้านซูชิซึ่งเป็นผู้เสียหาย 2 ราย โดยมีรายหนึ่งจ่ายเงินทำสัญญากว่า 2.5 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่จนตอนนี้ยังไม่ได้เปิดสาขา อีกรายจ่ายเงินแล้ว 2 ล้านบาท แต่เปิดร้านได้ 2 เดือน ก็ต้องปิดตัวลง เพราะไม่มีวัตถุดิบมาส่ง ทำให้ลูกค้ามาต่อว่า จนพามาแจ้งความในวันนี้
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/06/1655698710167-1024x577.jpg)
โดย น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนไปพบร้านดังกล่าวติดประกาศหน้าร้านโฆษณาชักชวนให้มาซื้อแฟรนไชส์ ด้วยความที่เป็นลูกค้าประจำและเห็นว่าน่าสนใจจะทำร้านอาหาร จึงติดต่อทำสัญญาเปิดร้านที่ย่านสายไหม โดยตกลงกันว่า ทางผู้ขายแฟรนไชส์จะทำหน้าที่จัดการดูแลบริหาร ส่วนผู้ซื้อแฟรนไชส์แค่รอรับผลกำไร ซึ่งช่วงแรกไม่มีปัญหา กระทั่งเดือนที่ผ่านมา วัตถุดิบเริ่มมาส่งช้า ขาดส่ง และไม่สามารถติดต่อเจ้าของแฟรนไชส์ได้อีก มีเพียงคำอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านไลน์กลุ่มว่าปลาแซลมอนไม่พอ ผู้จัดหาต้นทางไม่สามารถหาวัตถุดิบส่งได้ แล้วเงียบหายไป ติดต่อไม่ได้
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/06/1655698710808-1024x577.jpg)
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ประกอบธุรกิจไม่ได้ แม้จะอยากทำต่อ จากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะตกเป็นผู้ต้องหาด้วยหรือไม่ เพราะหนึ่งวันก่อนเกิดเรื่อง ยังเปิดร้านปกติ ทั้งนี้ทางเจ้าของแฟรนไชส์ กำหนดเงื่อนไขให้ทำโปรโมชั่น 199 บาทด้วย และตนก็รับคูปองมาขายให้ลูกค้าเพราะเจ้าของแฟรนไชส์ ยืนยันว่า แม้ปลาแซลมอนจะปรับราคาแพงขึ้นก็ยังพอมีกำไร จึงเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือและมีการขยายสาขาเพิ่ม และคุยกันหมือนเป็นเพื่อนสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดปัญหา ซึ่งแรก ๆ มีคูปอง 250 บาท ก่อนลดลงเป็น 199 บาทอย่างที่ผ่านมา
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/06/1655698710579-1024x577.jpg)
ทั้งนี้ หากซื้อวัตถุดิบจากร้านอื่นจะถือว่าผิดสัญญา ส่วนเรื่องรายได้นั้น จะต้องโอนเงินแต่ละวันให้เจ้าของ ก่อนจะโอนกลับมา 10% ในแต่ละเดือน แต่หากคิดจากยอดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบแต่ละเดือน กลับไม่มีกำไรเลย ตนเปิดร้านได้ 2 เดือน เดือนละประมาณหลักแสนบาท รวมๆ ยังได้กลับมาไม่ถึงครึ่ง ตอนนี้ก็ต้องปิดตัวลง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/06/1655698710473.jpg)
ด้าน น.ส.บี เจ้าของร้านสาขาวัชรพล กล่าวว่า ได้รับการชักชวนให้มาทำร้าน แต่ยังไม่มั่นใจ กระทั่งร้านมีสาขาทั้งหมด 20 แห่ง จึงเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ จึงตกลงทำสัญญาจ่ายเงินไป 2.5 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเป็นสาขาที่ 26 ซึ่งตามจริงมีกำหนดเปิดร้านเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เปิดก็เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งเจ้าของแฟรนไชส์อ้างว่า ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจอาหาร ก็สามารถทำธุรกิจได้ แค่จ่ายเงินค่าสาขา โดยการันตีรายได้ว่าจะได้เงินจากยอดขาย 10% พร้อมให้ไอแพดไว้ 1 เครื่อง มาดูยอดลูกค้าและการใช้คูปอง ทั้งนี้ตนยังหวังว่าคู่กรณีจะกลับมารับผิดชอบ แต่ไม่ทราบเดินทางหนีออกนอกประเทศไปแล้วตามที่เป็นข่าวหรือไม่.