เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการให้การช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า จากกรณีมีการรายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิต 2 คน แต่ล่าสุดได้รับรายงานสถานการณ์จากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า ผู้เสียชีวิต 1 ใน 2 รายนั้น เป็นชาวจีน ไม่ใช่ชาวไทย ถือว่าทำให้ครอบครัวที่รอคอยอยู่นั้นสบายใจได้บางส่วน ก็หวังว่าอีก 1 คน ที่มีรายงานเสียชีวิตแล้ว หากมีการพิสูจน์อะไรต่างๆ แล้ว จะไม่ใช่คนไทยเช่นกัน ทั้งนี้ หากมีรายงานข่าวจากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากทางการนั้น ตนหวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในไทยจะคุ้มครองแรงงานที่ไปทำงานที่อิสราเอล หากได้ข่าวจากแหล่งอื่นๆ ก็ขอให้ไม่เป็นความจริง  

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนคนไทยที่บาดเจ็บขณะนี้มี 9 ราย ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันยังมีจำนวน 11 คน ขณะนี้รัฐบาลอิสราเอล มีการเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่เหตุการณ์ไม่สงบไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว แต่การเคลื่อนย้ายก็ค่อนข้างทำได้ลำบาก ทำได้ครั้งละ 20-30 คน แต่รัฐบาลอิสราเอลพยายามเคลื่อนย้ายแรงงานออกจากพื้นที่ให้หมดให้เร็วที่สุด จนถึงตอนนี้คาดว่าเคลื่อนย้ายไปแล้วหลายร้อยคน ตนเชื่อว่าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภายใน 2 วันนี้ น่าจะเคลื่อนย้ายแรงงานไทยออกจากพื้นที่ไม่สงบได้ทั้งหมด สำหรับคนไทยแจ้งความจำนงขอกลับประเทศไทย ขณะนี้ 1,099 ราย ซึ่งท่านนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า เมื่อไหร่ที่รัฐบาลอิสราเอลประกาศเปิดน่านฟ้า และพร้อมให้เครื่องบินของกองทัพอากาศเข้าไป เราก็จะรีบรับตัวผู้ใช้แรงงานกลับมาทันที

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ แรงงานไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอล บางส่วนมีความกังวลว่า หากเดินทางกลับมาแล้วนั้น จะไม่สามารถกลับทำงานที่อิสราเอลอีก เรื่องนี้ตนและผู้บริหารกระทรวงแรงงานจะพยายามอย่างถึงที่สุด ในการประสานให้แรงงานกลับไปทำงานที่อิสราเอลได้ ในยามที่สถานการณ์สงบแล้ว หากประเทศเดิมไม่ได้ ก็จะพยายามประสานประเทศอื่นๆ เพื่อให้แรงงานไทยไปทำงานต่อไป ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศนั้น ตามระเบียบก็ต้องมี แต่ตนจะพยายามสนับสนุนให้แรงงานที่กลับมาด้วยเหตุการณ์ไม่สงบ สามารถกลับไปทำงานได้ จะพยายามแบ่งเบาให้ได้มากที่สุด เบื้องต้น ตน ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) มีการหารือตกลงกันว่าจะพยายามหางบฯ มาสนับสนุนตรงนี้ หากไม่ได้ ก็จะหารือรัฐบาลเพื่อขอใช้งบฯ บางส่วนไปช่วยการเดินทาง

เมื่อถามว่า จนถึงตอนนี้สามารถติดตามคนงานไทยในอิสราเอลได้ครบหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แรงงานที่ไปทำงานอิสราเอลมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไปอย่างถูกต้องกับกรมการจัดหางาน อีกส่วนเดินทางไปเอง หรือไปทำงานหลายปีแล้วไม่ได้กลับมาเมื่อหมดสัญญา ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าไม่ได้ส่งกับกรมการจัดหางาน แต่ทางเราได้ประสานผ่านเอเจนซี่ และประสานผ่านทางนายจ้างที่จ้างแรงงานไทย ดังนั้นตอนนี้ประสานได้ครบ ทั้งแรงงานที่เข้าไปทำงานทั้ง 2 กลุ่ม นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ยังได้มอบเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานหรือ 5 เสือแรงงาน ไปประสานกับครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 9 ราย และครอบครัวผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 รายด้วย เพื่อดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามนำคนไทยเหล่านี้กลับเข้าสู่อ้อมกอดพ่อแม่อยู่.