จากกรณีทรงผมนักเรียนที่เป็นข้อถกเถียงกันมานานหลายสิบปีว่า ควรจะเปลี่ยนแปลงระเบียบทรงผมหรือไม่ อย่างไร ปัจจุบันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โรงเรียนศรัทธาสมุทร ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม มีนักเรียนกว่า 2 พันคน สภานักเรียนได้จัดให้มีการลงประชามติ เรื่องทรงผมนักเรียนโรงเรียนศรัทธาสมุทร พ.ศ.2565 แทนระเบียบเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนเมื่อปี 2451 หรือ 114 ปีมาแล้ว โดยเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ปกครอง ครูเก่า ครูปัจจุบัน ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันแสดงความคิดเห็นจนครบนั้น

ล่าสุดเมื่อวานนี้ สภานักเรียนโรงเรียนศรัทธา​สมุทรได้จัดให้มีการนับคะแนนประชามติดังกล่าว โดยนางวิไล ออกกิจวัตร ผู้อำนวยการโรงเรียนศรัทธา​สมุทร และนายพูลธวัช โกวิทานนท์ ประธานนักเรียน ร่วมกันเปิดหีบใบลงประชามติ มีนายสมชาย ถาวร นายกสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนศรัทธาสมุทรวัดบ้านแหลม นายพงศธร ชัยวัฒน์ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนศรัทธาสมุทร พร้อมคณะกรรมการสภานักเรียนร่วมเป็นสักขีพยาน แบ่งเป็น 3 หน่วยนับคะแนน หน่วยแรกเป็นนักเรียนปัจจุบันใช้สิทธิ 2,068 คน หน่วยที่ 2 เป็นผู้ปกครอง 1,571 คน และหน่วยที่ 3 เป็นครูเก่า ครูปัจจุบันและศิษย์เก่า 169 คนรวม 3,808 คน

ใช้เวลานับนานกว่า 5 ชั่วโมง ผลปรากฏว่า ส่วนใหญ่เห็นชอบให้เปลี่ยนทรงผลใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น แยกเป็นทรงผมนักเรียนชาย ม.ต้น เห็นชอบ 3,258 คะแนนคิดเป็น 85.55 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นชอบ 328 คะแนน ไม่ประสงค์ลงคะแนน 198 คะแนน บัตรเสีย 24 ใบ ทรงผมนักเรียนหญิง ม.ต้น เห็นชอบ 3,258 คะแนน คิดเป็น 85.21 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นชอบ 258 คะแนน ไม่ประสงค์ลงคะแนน 284 คะแนน บัตรเสีย 21 ใบ ทรงผมนักเรียนชาย ม.ปลาย เห็นชอบ 3,226 คะแนน คิดเป็น 84.71 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นชอบ 209 คะแนน ไม่ประสงค์ลงคะแนน 352 คะแนน บัตรเสีย 21 ใบ

นายพูลธวัช โกวิทานนท์ ประธานนักเรียนโรงเรียนศรัทธาสมุทร กล่าวว่าผลประชามติครั้งนี้ ถือเป็นเอกฉันท์ทุกฝ่ายเห็นตรงกันให้ปรับเปลี่ยนทรงผมแบบใหม่ คือ นักเรียนชาย ม.ต้น ผมด้านข้างเป็นรองหวี ด้านหน้ายาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร นักเรียนหญิง ม.ต้น ด้านข้างยาวเสมอลายคาง นักเรียนชาย ม.ปลาย เป็นรองทรงสูง เป็นต้น โดยเป็นไปด้วยความโปร่งใส กล่องลงคะแนนจัดเก็บอย่างดี จึงขอให้น้องๆ ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่อย่างเคร่งครัด

ด้านนายพงศธร ชัยวัฒน์ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนศรัทธาสมุทร กล่าวว่า จะนำผลประชามติครั้งนี้เข้าสู่คณะกรรมการสถานศึกษา วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เพื่อให้ความเห็นชอบออกเป็นระเบียบใหม่เรื่องทรงผม เพื่อมาใช้ร่วมกันลดความขัดแย้งอันจะเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับครูที่จะมีสมาธิในการสอนและนักเรียนจะได้ตั้งใจเรียนไม่ฝักไฝ่เรื่องทรงผมอีก นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เรียกร้องสิ่งต่างๆ ก็ต้องเคารพสิทธิและฟังเสียงผู้อื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ใช้เสียงข้างมาก

สำหรับโรงเรียนศรัทธาสมุทร ชื่อเดิม โรงเรียนวัดบ้านแหลม เปิดสอนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2451 โดยตั้งอยู่บริเวณวัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ในปัจจุบัน ปี พ.ศ.2458 เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนแหลมวิทยาคม” ก่อนจะเปลี่ยนอีกเป็น “โรงเรียนศรัทธาสมุทร” และใช้ระเบียบทรงผมมาจนปัจจุบัน