นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า การประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ กฎหมาย พีดีพีเอ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่มีกว่า 3 ล้านรายในไทย ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย พร้อมปรับการบริหารจัดการธุรกิจ รองรับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ครอบคลุมประเด็นการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ทางดีป้า จึงได้ร่วมมือกับ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และเครือข่ายพันธมิตรดำเนินโครงการส่งเสริมทักษะ การบริหารจัดการเกี่ยวกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายพีดีพีเอ สำหรับภาคธุรกิจ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้กับผู้ประกอบการและพัฒนากำลังคนให้มีความรู้ความเข้าใจถึงแนวปฏิบัติตามไม่ละเมิดต่อกฎหมาย และนำไปประยุกต์ใช้ต่อยอดให้เกิดความปลอดภัยและเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

“เอสเอ็มอีถือได้ว่าเป็นเสาหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย เพราะ สามารถสร้างการจ้างงานได้ถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 71.70% อย่างไรก็ตาม ดีป้าเห็นว่า เทคโนโลยีดิจิทัลที่จะช่วยสร้างแต้มต่อให้เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ล้วนเชื่อมโยงกับข้อมูลเป็นสำคัญ และการนำข้อมูลไปใช้ทำธุรกิจ ก็มักเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ซึ่งเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพีดีพีเอ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เอสเอ็มอี จะต้องเร่งปรับกระบวนการการบริหารจัดการภายในองค์กรของตนเอง เพื่อรองรับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม และครอบคลุมไปถึงประเด็นการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย เพราะหากต้องประสบปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วไปละเมิดต่อกฎหมายพีดีพีเอ แล้ว อาจเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและส่งผลถึงธุรกิจ จึงเป็นที่มาของการร่วมจัดโครงการส่งเสริมทักษะการบริหารจัดการเกี่ยวกับแนวปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 สำหรับภาคธุรกิจขึ้นมา”

ด้าน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า แม้ ก.ม.ลูกพีดีพีเอ จะผ่อนปรนให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี ไม่ต้องบันทึกรายการข้อมูล แต่ ก็ต้องจัดเก็บให้ได้มาตรฐานไม่รั่วไหล ซึ่งทางผู้ประกอบการส่วนมากยังขาดความตระหนัก โดยทางทางสมาพันธ์ฯ ได้เตรียมการ ทั้งในด้านบุคลากรต่าง ๆ อาทิ ทีมที่ปรึกษา ทีมตรวจสอบ ทีมฝึกอบรม ทีมที่ปรึกษา รวมถึงทีมไอทีด้านระบบความปลอดภัย เพื่อให้ความรู้กับเอสเอ็มอี  โดยปัจจุบันสมาคมฯมีสมาชิกมากกว่า 1 แสนหลาย ซึ่งครอบคลุมในหลากธุรกิจ ซึ่งการร่วมมือกับทางดีป้าในการดำเนินโครงการนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้เอสเอ็มอีตื่นตัว ในการปฏิบัติให้ได้ตามมาตรฐานตามกฎหมายกำหนด ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมคาดว่าจะมาจาก ธุรกิจบริการ อาหาร ท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งตัวแทนที่เจ้าร่วมอบรมยังสามารถนำความรู้กลับไปเป็นเทรนนิ่งให้กับบุคลากรคนอื่นได้อีกด้วย

นายอุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งสื่อ พีดีพีเอ ไทยแลนด์ และ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ ได้ร่วมกับ สถาบันพัฒนาและทดสอบทักษะดิจิทัล (ดีดีทีไอ) พัฒนาหลักสูตรภายใต้โครงการฯ ในรูปแบบ อีเลิร์นนิ่ง จำนวน 18 ชั่วโมง และผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องผ่านการทดสอบความรู้พื้นฐาน และหลังผ่านการทดสอบแล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับวุฒิบัตร ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการ ผู้บริหารธุรกิจเอกชนจากทั่วประเทศเข้าร่วม มากกว่า 1,000 คน

โดยมีตัวอย่างหัวข้ออบรมที่น่าสนใจ เช่น การบังคับใช้กฎหมาย, ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล, หน้าที่ตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ประมวลผล, ข้อมูลส่วนบุคคล และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO), สิทธิเจ้าของข้อมูล, สิ่งที่องค์กรต้องเตรียม, การจัดเตรียมเอกสาร, Consent Form, Cookie Policy, Data Flow Diagram เป็นต้น