เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.ได้หารือและให้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ ให้เกิดศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์ในการเปิดเสรีทางการค้าต่อไป

นอกจากนี้ ครม. ยังได้มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการด้านศูนย์ข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย รวมถึงมีมติเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีอากร สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่นำเข้าจากต่างประเทศ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปจนถึงสิ้นปี 2566

สำหรับสาระสำคัญ ร่างประกาศกระทรวงการคลัง กำหนดยกเว้นอากร เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้ามาโดยให้ยกเว้นอากรถึงวันที่ 31 ธ.ค.66 และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป จึงให้จัดเก็บอัตราอากร 20% ตามเดิม ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.65.