สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันพุธ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของ “แรปป์เลอร์” (Rappler) ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังของประเทศ เนื่องจากแรปป์เลอร์ ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการลงทุนของต่างชาติในกิจการสื่อท้องถิ่น ด้วยการ “ขายการควบคุมให้กับนายทุนต่างชาติ”


คำสั่งดังกล่าวมีเนื้อหาแบบเดียวกับที่คณะกรรมการเคยประกาศ เมื่อปี 2561 ขณะที่แรปป์เลอร์ออกแถลงการณื ยืนยันเตรียมยื่นอุทธรณ์ และวิจารณ์กระบวนการที่เกิดขึ้นว่า “มีความไม่ชอบมาพากลในหลายประเด็น” ทั้งที่สามารถประนีประนอมกับรัฐบาลได้ตั้งแต่กรณีแรก ซึ่งเกิดขึ้นมานานกว่า 4 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีการรื้อฟื้นคดี “หมิ่นประมาทผ่านการโฆษณาทางลายลักษณ์อักษร” กับ น.ส.มาเรีย เรสซา บรรณาธิการบริหารด้วย


ปัจจุบัน แรปป์เลอร์เป็นเพียงสำนักข่าวเพียงไม่กี่แห่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะประเด็นสงครามยาเสพติด โดยในเวลาเดียวกัน แรปป์เลอร์ยังคงมีความขัดแย้งกับรัฐบาลมะนิลาในเรื่องกฎหมายการจัดตั้งบริษัท ที่กฎหมายของฟิลิปปินส์ระบุชัดเจนว่าห้าม “ต่างชาติ” เป็นเจ้าของ ถือครองหุ้น หรือมีส่วนร่วมในการบริหาร เนื่องจากแรปป์เลอร์ มีสำนักงานอยู่ที่กรุงจาการ์ตาด้วย


ขณะที่เรสซา ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2564 ร่วมกับนายดมิทรี มูราทอฟ ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย ยืนยันว่า “กลุ่มทุนต่างชาติ” ลงทุนผ่านตราสารแบบดีอาร์ (Depositary Receipt) ซึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้มีบทบาทในการทำงานของแรปป์เลอร์ และจะเปิดทำการต่อไป


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียว ก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์คนใหม่ ของนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่าย ว่าสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ “จะยิ่งถดถอย”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES