เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีวิพากษ์วิจารณ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข รักษาอาการโควิด-19 และกักตัวไม่ครบ แต่ออกมาทำงานวันแรก เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า นายอนุทิน ได้ทำการรักษาเป็นเวลา 7 วันและอีก 3 วัน ได้สังเกตอาการ ซึ่งสามารถออกมาทำงาน แต่ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอขอลดจำนวนวันในกระบวนการรักษาเป็น 5+5 วัน โดยใน 5 วันหลัง เป็นการสังเกตอาการสามารถออกไปข้างนอกได้ โดนจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ยืนยันว่าการรักษาและกักตัวของนายอนุทินครบ 10 วัน เพราะได้เริ่มนับตั้งแต่วันที่มีอาการ ไม่ได้นับจากวันที่มีผลตรวจจากแล็บ ซึ่งวันที่นับผลจากแล็บคือผู้ที่ไม่มีอาการ และยืนยันว่าการที่นายอนุทินได้ออกมาทำงานมีการเว้นระยะห่างตามมาตรการ ทั้งนี้การที่จะประกาศเป็นโรคประจำถิ่นจะต้องให้ ศบค. ประกาศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องพิจารณาทั้งทางการแพทย์ สาธารณสุขและกฎหมาย ที่ต้องดูควบคู่กัน ให้รอบคอบ โดยเฉพาะการเยียวยา เชื่อว่าภายหลังมีการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น การใช้ชีวิตของประชาชนก็ยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร 

เมื่อถามว่าในช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ นพ.โอภาส มาจากสองปัจจัยคือจากกิจกรรม งานเลี้ยงสังสรรค์ และจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.4 และ BA.5 ที่ติดเชื้อเร็วขึ้นแต่ความรุนแรงไม่มาก พร้อมย้ำว่าภาพรวมของประเทศขณะนี้ ผู้ป่วยหนักไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และเตียงผู้ป่วยขณะนี้ยังมีเพียงพอ 

เมื่อถามถึงกรณีเอกสารของกระทรวงสาธารณสุขที่ประกาศแจ้งเตือนทั่วประเทศให้เตรียมความพร้อมในการรับมือโควิดระลอกใหม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เป็นการแจ้งเตือน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีการเตรียมพร้อมไว้ตาม มาตรการปกติขณะที่กระทรวงมหาดไทยเองก็ได้มีการออกประกาศเตือน.