สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า นายแพทย์เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกขอเรียกร้องให้ประเทศทั้งหลายพักการฉีดวัคซีน ”บูสเตอร์โด๊ส” วัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยก็จนกว่าจะสิ้นสุดเดือน ก.ย.ไปแล้ว เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศทุกประเทศได้ถึงร้อยละ 10

นับเป็นการออกมาเรียกร้องอย่างชัดเจนที่สุดของหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ เพื่อให้หยุดการใช้วัคซีนบูสเตอร์โด๊สเอาไว้ก่อน เพราะยังมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจนเรื่องการฉีดวัคซีน

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวอีกว่า เขาเข้าใจดีถึงข้อกังวลของรัฐบาลทุกประเทศที่ต้องการปกป้องประชาชนของตนจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่ก็ไม่อาจยอมรับได้ว่ามีบางประเทศได้ใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้ว

ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประเทศร่ำรวยได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 50 โด๊ส สำหรับประชาชน 100 คน เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และตัวเลขก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่นั้นมา แต่กับประเทศรายได้ต่ำนั้นพบว่า ฉีดวัคซีน 1.5 โด๊สกับประชาชน 100 คนเท่านั้น สาเหตุเพราะการจัดสรรวัคซีนยังได้ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงขอให้ทบทวนให้ส่งวัคซีนส่วนใหญ่จากประเทศร่ำรวยไปยังประเทศรายได้ต่ำประเทศส่วนใหญ่ในขณะนี้ด้วย

ทั้งนี้ บางประเทศเริ่มใช้หรือพิจารณาถึงความจำเป็นสำหรับวัคซีนบูสเตอร์โด๊ส เช่น เยอรมนีบอกว่าตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไปจะเริ่มใช้วัคซีนบูสเตอร์โด๊สกับกลุ่มเสี่ยง ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บอกว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนบูสเตอร์โด๊สกับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วทั้งหมด แต่ขอให้เป็นกลุ่มเสี่ยงก่อน 3 เดือนหลังวัคซีนเข็มสองและ 6 เดือนหลังเข็มแรก และสัปดาห์ที่แล้วอิสราเอลนำโดยประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซอก ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไปในประเทศได้วัคซีนเข็ม 3

ด้าน สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้ลงนามในสัญญาข้อตกลงกับไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เพื่อขอซื้อวัคซีนโควิด-19จำนวน 200 ล้านโด๊ส เพื่อช่วยในการฉีดวัคซีนกับเด็กและยังจะเป็นบูสเตอร์โด๊สด้วย ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐกำลังประเมินถึงความจำเป็นสำหรับวัคซีนบูสเตอร์โด๊ส

เครดิตภาพ REUTERS