สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า เรือขนาด 12 เมตร ซึ่งแล่นออกจากกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยในเวลาต่อมา ยามชายฝั่งสเปนพบเรือลำดังกล่าวอยู่สภาพพลิกคว่ำ แต่ยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ เพราะคลื่นทะเลรุนแรง ทำให้กะลาสีต้องรอจนถึงเช้าวันถัดไป

ขณะที่กลุ่มนักประดาน้ำชายฝั่งกล่าวว่า การรอดชีวิตของกะลาสีคนนั้น “เกือบจะเป็นไปไม่ได้”

ทั้งนี้ เรือกู้ภัยพร้อมนักประดาน้ำ 5 คน และเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ออกปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือชายประสบเหตุที่ไม่ทราบชื่อ ซึ่งเมื่อถึงตัวเรือและเริ่มการค้นหา ชายคนนั้นได้ตอบกลับด้วยการทุบจากด้านในตัวเรือ

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยทะเลมีคลื่นลมแรงและพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ทีมกู้ภัยจึงตัดสินใจติดบอลลูนลอยน้ำกับเรือเพื่อป้องกันการจม และรอจนถึงเช้าวันต่อไป

สภาพเรือของนักเดินเรือชาวฝรั่งเศส ซึ่งพลิกคว่ำกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อนได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยยามฝั่งของสเปนในที่สุด

วันรุ่งขึ้น นักประดาน้ำ 2 คน ดำน้ำเข้าไปใต้เรือเพื่อช่วยกะลาสี ซึ่งสวมชุดชูชีพนีโอพรีนในน้ำที่สูงถึงระดับหัวเข่า โดยหลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวกระโจนลงน้ำที่เย็นจัด และพยายามว่ายน้ำลอดใต้เรือเพื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ

ด้านนายวินเซนเต โคเบโล สมาชิกทีมปฏิบัติการพิเศษของหน่วยยามชายฝั่ง กล่าวว่า กะลาสีคนนั้นกระโดดลงน้ำ “ด้วยตัวเอง” อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะถอดชุดออก ทีมนักประดาน้ำจึงช่วยดึงตัวเขาออกมาจากเรือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสภาพร่างกาย.

เครดิตภาพ : REUTERS