การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 20 ที่ ม.ราชภัฏอุบลราชานี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ไฮไลต์ของนักกีฬาปัญญาชนไทย อยู่ที่ ตะกร้อ ประเภททีมชุดชาย ปรากฏว่า ทีมตระกร้อไทย เอาชนะ มาเลเซีย 3-0 ทีม ในรอบพบกันหมด คว้าชัยชนะ 2 นัดรวด คว้าเหรียญทองไปครองได้แบบไม่มีพลิกโผ โดย ทีม A ชนะ 21-13, 21-12 ทีม B ชนะ 21-11, 21-12 และทีม C ชนะ 15-21, 21-13, 21-14 โดยยังเหลือประเภททีมเดี่ยวชายและทีมคู่ชาย ให้ลุ้นอีก 2 รายการ
ส่วน มวยไทยสมัครเล่น นักชกไทย เข้ารอลชิงชนะ ครบ 6 รุ่น คว้ามาได้ 4 ทอง และแพ้ ลาว ไป 2 รุ่น รุ่น 48 กก. สุรเกียรติ ชะอุ่มพันธ์ ชนะคะแนน ลี เดือย ฟ๊วก (เวียดนาม) 30-27, รุ่น 54 กก. จีรพงษ์ แปจุมปู ชนะทีเคโอ ยก 3 สมยง โพนคำ (ลาว), รุ่น 60 กก. ภาคภูมิ ไกลถิ่น ชนะทีเคโอ ยก 2 เธียการาวัน เจเลวัน (มาเลเซีย) รุ่น 63.5 กก. ทักษิณ ถาพันธ์ ชนะทีเคโอ ยก 2 อิสมาอิล ไซฟุลละห์ (มาเลเซีย), รุ่น 57 กก. ธนวันต์ โยคี แพ้คะแนน คำมาที หุมพัน (ลาว) 28-29, รุ่น 51 กก. วันทรงชัย ความสวัสดิ์ แพ้ คำพูวัน คำสาทอน (ลาว) 27-30
ผศ.ดร.สุธนะ ติงศภัทิย์ หัวหน้านักกีฬาไทย กล่าวว่า ทัพไทยได้เป็นเจ้าเหรียญทอง ม.อาเซียน 3 สมัยติดต่อกันแน่นอนแล้ว แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 2 วัน ก็ตาม หลังทำได้ตามเป้า 70 ทอง ตามที่คาดกันไว้ ทุกคนถือว่ามาด้วยใจเพราะการเตรียมมีความไม่พร้อม ฉุกละหุกในหลายด้าน ต้องขอโทษทุกคนด้วย รวมทั้งปัญหาในเรื่องงบประมาณถือว่าค่อนข้างจำกัดในการเตรียมทีมทั้งหมด ก่อนหน้านี้มีการตั้งงบไว้เพียงพอ แต่ด้วยการที่เลื่อนการแข่งขันออกมา ทำให้ถูกตัดลดไปพอสมควร นอกจากนี้ก็ยังไม่แน่ว่าปีนี้จะจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ทำให้ตั้งงบไว้น้อย กว่าจะมีความชัดเจนว่าแข่งขันได้เพียง 2 เดือนล่วงหน้าเท่านั้น หลังจากนี้จะต้องมาหารือวางแผนล่วงหน้าเพื่อไม่ให้มีปัญหาแบบนี้อีก
สำหรับ ทีมปัญญาชนไทย คว้าเจ้าเหรียญทอง 3 สมัยติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 8 จาก 20 ครั้ง อย่างไรก็ตามอินโดนีเซีย ยังคงเป็นชาติที่ได้เจ้าเหรียญทองกีฬาปัญญาชนอาเซียนมากที่สุด 9 ครั้ง
