สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่าสถาบันสุขภาพแห่งชาติอิตาลี (ไอเอสเอส) รายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าว สะสมอย่างน้อย 7 ราย


ทั้งนี้ เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ของอิตาลี สะสมอยู่ที่อย่างน้อย 94 คน นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 42 คน โดยจากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด พบว่ามีอย่างน้อย 55 คน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่ง ติดเชื้อไวรัสชนิดทำลายประสาท ซึ่งมีอันตรายมากกว่า


ขณะที่จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ในอิตาลี มี 5 ราย อยู่ในแคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลืออยู่ในแคว้นปิเอมอนเตและแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา แห่งละ 1 ราย


ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ โดยไอเอสเอสแนะนำผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับยุง โดยใช้ยาไล่แมลงหรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง และกำจัดหรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่ศัตรูพืชสามารถแพร่พันธุ์ได้ง่าย อย่างจุดที่มีน้ำขังสะสม


อนึ่ง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า อาการของไข้เวสต์ไนล์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสชื่อเดียวกัน อาจประกอบด้วยอาการปวดศีรษะ ไข้สูง คอตึง มึนงง วิงเวียนศีรษะ อาการโคม่า ตัวสั่น ชัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอัมพาต โดยโรคนี้มักไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณีโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA