จากกรณีเหตุสลดปู่วัย 53 ปี ขับรถกระบะเชฟโรเลต 4 ประตู ทับหลานวัย 1 ขวบ 8 เดือน เสียชีวิตหน้าบ้านพักตัวเองพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ภายหลังเกิดความเสียใจอย่างหนัก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงขั้นเสียสติ ทำร้ายตัวเอง ก่อนจะหนีไปผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องนอน สร้างความเสียใจให้แก่ญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา

หดหู่ใจ! รับสภาพไม่ไหวถอยกระบะทับหลานขวบเศษ ปู่ตรอมใจแขวนคอดับตาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. พ.ต.อ.ชัยทัศรัศมิ์ พรหมศิริ ผกก.สภ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าว หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึงสอบสวนญาติผู้เห็นเหตุการณ์ ยืนยันไม่มีเงื่อนงำในการเสียชีวิต รวมถึงทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตของทั้งสองคน จึงไม่มีการนำศพส่งตรวจชันสูตรซ้ำที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น

ส่วนสาเหตุมาจากความประมาทช่วงที่ขับรถออกจากบ้าน ไม่ทันสังเกตเห็นหลานที่เล่นอยู่หน้าบ้าน ขณะเดียวกันฝ่ายปู่ เกิดความเสียใจอย่างหนักจนรับไม่ได้ ขาดสติพยายามทำร้ายตัวเอง ด้วยการใช้ขวดตีศีรษะ และหลบเข้าไปผูกคอตายในห้องพัก โดยญาติกำลังเสียใจกับการเสียชีวิตของเด็ก และเตรียมงานศพ ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าทางปู่จะคิดสั้น อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้มีการสอบสวนโดยละเอียด ประกอบการเก็บหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางญาตินำศพตั้งบำเพ็ญกุศลคู่ปู่หลานไว้ในบ้านหลังเดียวกัน พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ หากที่บ้านเลี้ยงลูกหลานเด็กเล็ก ๆ ก่อนจะขับรถต้องระวังตรวจดูลูกหลานไม่ให้คลาดสายตา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้อีก.