ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) เพื่อรับฟังข้อเสนอนโยบายที่เกี่ยวกับคนพิการในเขต กทม.ว่า เครือข่ายกลุ่มคนพิการโหวตว่าอยากให้ กทม.ทำใน 4 เรื่อง คือ 1.ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสสำหรับผู้ติดตามผู้พิการ โดยปกติผู้พิการขึ้นรถไฟฟ้าฟรีอยู่แล้ว ซึ่งต้องดูความเป็นไปได้อีกครั้ง 2.สร้างเครือข่ายผู้ปกครองสำหรับคนพิการ ซึ่งเห็นด้วยเนื่องจากพ่อแม่ที่มีลูกพิการถือเป็นกลุ่มเปราะบางมาก หลายครั้งภาครัฐเองอาจให้ความช่วยเหลือได้ไม่ตรง แต่กลุ่มพ่อแม่ที่มีลูกพิการจะเข้าใจกัน และมีประสบการณ์ที่แบ่งปันกันได้ จะเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ดังนั้น กทม.จะเป็นตัวกลางพัฒนาเครือข่ายเหล่านี้ รวมถึงดูแลการจ้างงาน ซึ่งที่ผ่านมา กทม.จ้างงานคนพิการแล้ว 150 อัตรา และตั้งเป้าจะจ้างเพิ่มให้ครบ 300 อัตรา ซึ่งตามอุดมคติต้องจ้างอย่างน้อย 600 คน ข้อดีการจ้างงานคนพิการทำให้รู้ว่าขาดอะไรในที่ทำงานบ้าง เพราะประชาชนที่มีความพิการต้องมาติดต่อเขต หากมีผู้พิการอยู่ที่เขต จะทำให้เตรียมสถานที่ได้พร้อมมากขึ้น และทำให้เข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกัน

3.จัดพื้นที่ให้คนพิการมาขายของ เช่น ตลาดนัด หรือพื้นที่อื่นๆ รวมถึงการทำแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเน้นย้ำกับเครือข่ายว่า เราไม่ต้องการขายของได้เพราะความสงสาร สินค้าที่นำมาขายต้องเป็นสินค้าตลาดต้องการด้วย ความสงสารอยู่ไม่จีรัง สินค้าต้องมีคุณภาพ ตอบโจทย์ตลาด และ 4.จัดอบรมวิชาชีพ การตลาด เพื่อให้สามารถอยู่ได้ในระยะยาว

ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึง การสร้างแพลตฟอร์ม 2 เรื่อง คือ ด้านการศึกษาให้คนพิการเรียนจากที่บ้านได้ และมีหลักสูตรตรงกับความพิการ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และแพลตฟอร์มการจ้างงานต่อยอดสู่อาชีพ เนื่องจากเดือนนี้เป็นเทศกาลวิทยาศาสตร์ มีเรื่องเทคโนโลยีที่จะบูรณาการกับกทม.หลายอย่าง หนึ่งในแพลตฟอร์มจะเกี่ยวกับผู้พิการ คาดว่าภายในเดือนนี้จะทดลองใช้จริง

ขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ทางเท้า พยายามให้เชื่อมต่อได้อย่างสะดวก ซึ่งในงาน “บางกอกวิทยา”จะเชิญกลุ่มผู้พิการมาร่วมกิจกรรมตลอดทั้งเดือน ซึ่งกิจกรรมต่างๆต้องเข้าได้ทุกคน เช่น ก่อนหน้านี้มีแอพพลิเคชั่น “พรรณนา” (PANNANA) ซึ่งเป็นแอพเสียงบรรยายภาพสำหรับผู้พิการทางการมองเห็น ได้รับชมหนังผ่านการบรรยายด้วยเสียง การแสดงดนตรีในสวนที่มีผู้พิการที่มาร่วมแสดง ย้ำว่าการจัดกิจกรรมจะทำต่อเนื่องเพราะไม่ใช่แค่อีเวนต์ แต่เป็นนโยบายหลักที่จะทำงานร่วมกันในอนาคต.