ถือเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่ชาวนครราชสีมา หรือชาวโคราชต้องจดจำแบบไม่รู้ลืม เมื่อวันนี้ในอดีต 13 สิงหาคม 2536 เกิดโศกนาฏกรรมอาคารโรงแรมรอยัลพลาซ่า ที่ตั้งอยู่ระหว่างถนนจอมสุรางค์ และถนนโพธิ์กลาง เพราะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง กลางเมืองโคราช ถล่มลงมา เมื่อเวลา 10.12 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 137 คน บาดเจ็บ 227 คน

โดยล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก Korat : เมืองที่คุณสร้าง ได้ออกมาย้อนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า รำลึก 29 ปี “โรงแรมรอยัลพลาซ่า” ถล่มกลางเมืองโคราช เมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 เวลา 4 โมงเช้า ฝังชีวิตไปถึง 137 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก


“โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม” กลายเป็นเหตุการณ์อีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ชาวโคราชต้องจดจำถึงทุกวันนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 หรือเมื่อ 29 ปีที่แล้ว ได้เกิดโศกนาฏกรรมอาคาร “โรงแรมรอยัลพลาซ่า” ตั้งอยู่ระหว่างถนนจอมสุรางค์ และถนนโพธิ์กลาง เพราะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง กลางเมืองโคราช ถล่มลงมา เมื่อเวลา 10.12 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 137 คน บาดเจ็บ 227 คน


โดยขณะเกิดเหตุ มีการอบรมสัมมนาซึ่งมีผู้อยู่ในอาคารทั้งหมดกว่า 400 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 47 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไปที่พักอยู่ในโรงแรมและพนักงานโรงแรม ด้านการกู้ภัยได้รับการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตในซากตึก “โรงแรมรอยัลพลาซ่า” ขณะนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีผู้ประสบเหตุจำนวนมากและไม่มีเครื่องมือหนักในการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ต้องคลานเข้าไปใต้ซากอาคารที่อาจถล่มซ้ำลงมาได้ทุกเมื่อ ซึ่งมีหลายหน่วยงานทั้งโคราชและกรุงเทพฯ ได้ระดมความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้ชื่อเดิมคือ “โรงแรมเมืองใหม่เจ้าพระยา” เป็นโรงแรมที่มีสถานบันเทิง และอาบ-นวดใหญ่ที่สุดในโคราช และมีการดำเนินธุรกิจล้มเหลวจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ยึดทรัพย์ ก่อนที่ผู้ถือหุ้นชุดใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์ และได้ฟื้นฟูกิจการ โดยมี นายเลอพงษ์ พัฒนจิตวิไล เป็นประธานบริษัทฯ นายชาตรี ล้อเลิศรัตน, นายสัญชัย สุรโชติมงคล, นายซิม แตมสำราญ, นายเลิศ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล เป็นกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารโรงแรมคือ นายวิทยา วงศวัชรกาญจน์ เป็นผู้จัดการทั่วไป แต่ปัจจุบันบางรายได้เสียชีวิตแล้ว


ขณะที่การฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆได้สิ้นสุดคดีเมื่อปลายปี 2543 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายบำเพ็ญ พันธ์รัตนอิสระ วิศวกรควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ส่วนผู้บริหารโรงแรมทั้งหมดพิพากษายกฟ้อง ด้วยเหตุผลจากคำพิพากษาเพราะผู้บริหารโรงแรมไม่มีความรู้เรื่องโครงสร้างโรงแรม

นอกจากโปรเจคท์ขยายตึกโรงแรมเป็น 6 ชั้นแล้ว ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทำอีกคือ ปรับปรุงคาเฟ่ ซึ่งเป็นแม่เหล็กสถานบันเทิงที่ทำรายได้ดีใหม่ทั้งหมด พร้อมกับจะสร้างอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ใช้งบสูงถึง 30 ล้าน สามารถจอดรถได้ 400 คัน และสุดท้ายเป็นการจัดงานใหญ่ ฉลองครบรอบ 10 ปีโรงแรมในเดือนพฤศจิกายน 2536 แต่เกิดเหตุการณ์โรงแรมถล่มเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ก่อน


เหตุการณ์อาคาร “โรงแรมรอยัลพลาซ่าโคราชถล่ม” กลายเป็นข่าวดังปี 2536 ช่วงนั้นอย่างมาก สำนักข่าวดังทั้งในและต่างประเทศมุ่งสู่เมืองโคราช เสนอข่าวนี้ตลอด 1 เดือนเต็ม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตและติดอยู่ในซากตึกจำนวนมาก ซึ่งทำให้ข่าวโรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม ถือได้ว่าเป็นข่าวดังไปทั่วโลก


ซึ่งในวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปีครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ได้รวมตัวกันทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เคราะห์ร้ายเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่า กลางใจเมืองโคราชถล่ม


และจนถึงวันนี้ 13 สิงหาคม 2565 เป็นวันครบรอบ 29 ปีเหตุการณ์ “โรงแรมรอยัลพลาซ่า” ถล่ม เป็นโศกนาฏกรรม “ซากตึกฝังชีวิต” ที่ชาวโคราชมิอาจลืมเลือน

ขอบคุณข้อมูลเฟซบุ๊ก Korat : เมืองที่คุณสร้างได้