ในมุมชีวิตของ คุณน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหาร บริษัท สหฟาร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทายาทของ ดร.ปัญญา-ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ เธอเคยเผชิญกับเรื่องราวหลากหลายด้านที่ทำให้สูญเสียพลังใจในการใช้ชีวิตไปบ้างในคราที่ผ่านมา ทว่าวันนี้เจ้าตัวถ่ายทอดมุมมองการปลุกพลังให้ตัวเองลุกขึ้นมาก้าวเดินด้วยพลังของการมองโลกสวย และการคิดบวก 

คุณน้ำผึ้ง เล่าว่า “คลุกคลีกับธุรกิจของที่บ้านมาตั้งแต่เด็ก นั่งขายของ ทำบาร์โค้ดในซูเปอร์มาร์เกต เข้าโรงงาน ดูการชำแหละไก่กับคุณพ่อ เรียนชั้นมัธยมถึงระดับปริญญาโทและทั้งที่ใจชอบอาร์ต ดีไซน์ แต่ เลือกเรียนบิซิเนส แมเนจเมนต์ หรือการจัดการธุรกิจที่อังกฤษ พอจบการศึกษากลับมาทำงานธุรกิจของทางบ้านเริ่มต้นทำงานด้านเอกสาร ด้านฝ่ายบัญชีการเงิน และย้ายไปทำหน้าที่ฝ่ายขายต่างประเทศ และ ช่วงที่สหฟาร์มฯ เจอวิกฤติต่าง ๆ จากปัจจัยต่าง ๆ จนต้องเข้าแผนฟื้นฟู และชีวิตน้ำผึ้งเองต้องเจอวิกฤติครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรียกว่าประเดประดังหลายทาง”

แม้หลากหลายปัญหาที่ชวนบั่นทอนจิตใจ แต่คุณน้ำผึ้งบอกผ่านความรู้สึกว่า “น้ำผึ้งเอง เป็นคนโลกสวยมาตั้งแต่เด็ก การเจอสิ่งต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา มีคำสอนของคุณพ่อช่วยได้คือ คุณพ่อจะสอนว่า ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ ให้เราคิดว่าอันนี้คือของขวัญจากพระเจ้าประทานพรมาให้เรา ให้เราได้ใช้โอกาสนี้ ในการได้ใช้ความคิด สติปัญญา ถ้าผ่านพ้นไปได้นั่นคือวิชาของเรา ที่บ้านสุขาวดีมีพระพุทธรูปปางประสูติ ที่มือขวาชี้ฟ้า มือซ้ายชี้ดิน มีความหมายว่า มีขึ้น ต้องมีลง มีเกิดต้องมีดับ มีรักก็ต้องมีเลิก มีความสุขก็ต้องมีความทุกข์ ถ้าทุกอย่างเป็นปกติ เหตุใดต้องเสียใจ พอเรามีสองข้อนี้อยู่ในใจตลอด รู้สึกว่าชีวิตคนเราเป็นแบบนี้ มีขึ้นมีลง พอวันที่เราลงต่ำสุด เราก็รู้ว่าสักวันหนึ่งก็ต้องขึ้น เราต้องรอโอกาสขึ้น เราต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ และมองไปในอนาคตที่ต้องวาดภาพว่ามันจะต้องสวยงาม” 

“น้ำผึ้งเป็นคนโลกสวย ช่วงทุกข์อย่างไรก็ทุกข์ แต่ทุกข์อย่างไรแล้วจบ อย่างเรื่องครอบครัวอะไรที่ชัดเจนก็จบ คิดว่าช่วงไหนที่อยู่ในนรกและทุกข์ก็จมทุกข์ให้เต็มที่ แล้วลุกขึ้นมา กลับมา เราเป็นคนโลกสวย ไม่คิดเยอะ ไม่คิดมาก ไม่ย้ำคิดย้ำทำ ส่วนเรื่องการงานในวันนี้ เป็นธุรกิจกงสีทำเต็มที่ และน้ำผึ้งทำโปรเจคท์ของตัวเอง ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ผลิตภัณฑ์ไก่พรีเมียม “PAULDY” น้ำผึ้งเป็นคนเต็มร้อยมาก เต็มที่กับทุกอย่าง วันที่เราเต็มที่แล้ว สุดแล้วเวลาที่เกิดอะไรขึ้นจะไม่รีเกรทว่า ถ้าวันนั้นเราดีกว่านี้อีกนะจะไม่มี ถือว่าเราเต็มที่แล้ว ไม่มานั่งเสียใจ ธงชีวิตที่น้ำผึ้งปักไว้ คือบอกตัวเองเสมอว่า ชีวิตน้ำผึ้งต้องดีและมีความสุข ถ้าน้ำผึ้งทำงานหนักมาก จะไปหาความสุข เช่น ชอปปิง กินข้าว เที่ยวให้มีความสุข” คุณน้ำผึ้งบอกถึงธงชีวิตทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข.

เรื่อง : แก้วใจ / ภาพ : จุมพล นพทิพย์