เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ห้อง Think Lab พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงานเสวนา “8 ปีประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้” โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท. นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ร่วมเสวนา

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังจะเข้าสู่การการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยังดำรงแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี กระทำได้หรือไม่ หรือต้องพ้นไป เรื่องนี้เป็นวาระของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งหลักการสำคัญคือ การจำกัดอำนาจ เพื่อไม่ให้ใช้อำนาจในระยะเวลามากเกินไป รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับก็มีระยะเวลาของการดำรงตำแหน่ง

พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 นับรวมเป็นนายกฯ จนถึงรัฐธรรมนูญปี 60 แปลว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 57-62 พอมาถึงวันที่ 24 ส.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี จึงมีความจำเป็นที่ต้องตั้งเรื่องร้องเรียนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี ความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ระบุไว้ชัดว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ ให้เป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ นอกจากนี้คนที่เป็นนายกฯ มาก่อน ต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 ยกเว้นไว้หลายเรื่อง แต่ไม่ยกเว้นเรื่อง 8 ปี ดังนั้นเรื่องนี้ติดตัว พล.อ.ประยุทธ์มา

“เมื่อไปดูรายงานการประชุมของกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 500 ต้องการยกร่างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ซึ่งนายมีชัย ฤชพันธุ์ ตั้งประเด็น นายสุพจน์ ไข่มุกด์ พูดเสริมว่าใครที่เป็นนายกฯ ก่อนรัฐธรรมนูญปี 60 ประกาศใช้ สามารถนับรวมระยะเวลากับการเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 60 โดยห้ามเป็นเกิน 8 ปี สรุปแล้วทั้งลายลักษณ์อักษรตามมาตรา 264 และเจตนารมณ์ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากความเป็นนายกฯ แน่นอน ไปไม่ได้ ทางตันส่วนที่เนติบริกร ระบุว่า การประชุมดังกล่าวรับฟังได้นิดหน่อยนั้น ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ส่วน ครม.ที่เหลืออยู่ก็รักษาการ ส่วนนายกฯ คนใหม่ก็เข้าสู่กระบวนการ” นายชูศักดิ์ กล่าว

ส่วนนายจาตุรนต์ กล่าวว่า เหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ข้อ 1 แง่ข้อกฎหมาย เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญซึ่งบทเฉพาะกาลบัญญัติไว้ว่าครม.ที่มีมาก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญให้เป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ แต่ไม่ได้มีการข้อยกเว้นในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปีไว้ ดังนั้นถือว่า ครม.สมัย คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์นับตั้งแต่เป็น ครม.ตั้งแต่วันแรก คือ วันที่ 24 ส.ค.57 แล้วเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ อีกครั้ง แม้จะไม่ได้มีรัฐมนตรีชุดเดิมทั้งคณะ ก็เข้าข่ายว่าครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.65

ข้อ 2 เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนั้น เพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจและการสืบทอดอำนาจที่ยาวนานจนนำไปสู่การทุจริต ในสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ยุค คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แทรกแซงองค์กรอิสระ และ ส.ว.ถูกสรรหาโดยพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ต้องนับตั้งแต่เริ่มการผูดขาดอำาจที่ตรวจสอบไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ประวัติศาสตร์การเมืองไม่มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งคนใดอยู่เกิน 8 ปีด้วย และในอดีตก็มีถึง 3 ครั้งที่มีนายกฯ เผด็จการอยู่เกิน 8 ปี และข้อ 3 ที่สำคัญการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก และเป็นจุดอ่อน คือ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ใช้ความมั่งคงทางทหารมาบริหารประเทศ

“เมื่อรวม 3 มิติเข้าด้วยกัน ทั้งข้อกฎหมาย ป้องกันการผูกขาดและการทุจริต และการป้องกันความเสียหายของประเทศในการล้มเหลวแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก พอใจไม่พอใจ ชอบหรือไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค.” นายจาตุรนต์ กล่าว

ขณะที่ นายสุทิน กล่าวว่า หลายคนบอกเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า เป็นเรื่องของศาล ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์จึงต้องคิดและตัดสินใจเองก่อน หากดูท่าทีว่าเขาจะไม่ลง ประชาชนต้องลุกขึ้นมาพูด เมื่อดูท่าทีว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่จบและปัดเป็นหน้าที่ของศาล เราจึงต้องออกมาชี้ให้เห็นว่าข้อกฎหมายเขียนเช่นนี้ ในการชี้ขาดตัดสินวาระของนายกฯ ไม่ใช่เรื่องข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่อย่าลืมเรื่องเจตนารมณ์ด้วย

“พล.อ.ประยุทธ์นับเลขเป็นหรือไม่ คุณจะนับปีไหนก็ตาม แต่เรื่องคือมันกี่ปี หาก 8 ปี เข้าข้ออันตรายตามที่เขากังวลหรือไม่ รัฐธรรมนูญมาตรา 158 พูดชัดว่าไม่เกิน 8 ปี ไม่จำเป็นต้องนับต่อเนื่อง ซึ่งมีคนถามอีกว่าไม่มีผลย้อนหลังรัฐธรรมนูญ 60 ก็ต้องเริ่มนับจาก 60 ใช่อยู่ที่หลักการทั่วไปไม่มีผลย้อนหลัง แต่หากเขียนให้ย้อนหลังก็ต้องย้อนหลัง”

นายสุทิน กล่าวต่อไปว่า หลักประชาธิปไตยต้องรับฟังประชาชนและสำคัญกว่านั้นคือต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศ หากรู้ว่าอยู่ไปประเทศจะวิกฤติและขัดแย้ง คุณต้องเสียสละ ถ้าคุณอยู่ต่อคุณจะทำงานได้จริงหรือไม่ หากประชาชนไม่ยอมรับคุณ จึงเรียกร้องว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ฟังเราพูด ประชาชนวันนี้เขาคิดอย่างไรให้ฟังเขา หากอยู่ต่อจะเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณจะทำงานได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ไม่ใช่คุณเสียหาย ประเทศชาติเสียหาย เศรษฐกิจพัง ใครจะรับผิดชอบ หากถึงวันที่คุณอิ่มตัวแล้ว ประเทศชาติพังยับแล้วมันก็ไม่ได้ คุณไม่ใช่นายกฯ ตามวัฒนธรรมประชาธิปไตย คุณเป็นนายกฯ เผด็จการที่อาศัยตัวหนังสือให้คุณเท่านั้นเอง.