เมื่อวันที่ 25 ส.ค. มีรายงานข่าวจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งว่า หลังจากที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. มีคำสั่งให้ หน่วยที่เกี่ยวข้อง สอบสวนเส้นทางความเป็นมาของการเข้ารับราชการทหารของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม และ อดีตทหารหญิง (ผู้ทำงานรับใช้) รวมทั้งการไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่แต่มีการรับสิทธิกำลังพลของกองทัพ โดยเฉพาะในรายของ อดีตทหารหญิงที่มียศ ส.ท. ซึ่งมีการเลื่อนขึ้นจาก ส.ต. มาป็น ส.ท. อีกต่างหาก

ขณะที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยที่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ มาช่วยราชการในส่วนของ “กองข่าว” ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่การข่าวนั้น กลับไม่ได้ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จริงตลอดระยะเวลา 3 ปี จนกลายเป็นเรื่องใหญ่สะเทือนวงการข้าราชการ เพราะมี “กำลังพลผี” ซึ่งไม่มีตัวตนมาทำงาน โดยเฉพาะการข่าวที่เป็นหัวใจของการสู้รบ สร้างความเสียหายให้กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้มีแหล่งข่าวเป็นนายทหารระดับสูง ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นมาซึ่งเป็นช่วงพิจารณาโยกย้ายตำแหน่งประจำปีพอดี จากนี้คงจะมีการย้ายล้างบางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการประชุมสภากลาโหม วันนี้ (25 ส.ค.) มีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มาประกอบในการพิจารณาโยกย้ายประจำปีด้วย

ขณะเดียวกันมีแหล่งข่าว เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่งข้อความให้กับผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมาก บอกเล่าถึงข้อมูลถึงเรื่อง “กำลังพลผี” ที่มีอยู่ในเกือบทุกหน่วยงาน ทั้งแต่ระดับ กองร้อย ที่มีกำลังจริงเพียง 70% ส่วนอีก 30% เป็นกำลังพลผี ที่มามีตัว และโดยกำลังพลที่ไม่มีตัว รับเฉพาะเงินเดือน ส่วนเงิน เพิ่ม ที่เป็น “พสร.” รวมทุกรายการเดือนละหมื่นกว่าบาท ทุกสิ้นเดือนมีการเบิก เพื่อเข้าบัญชีของ “ผู้บังคับบัญชาระดับสูง”

ด้าน นายทหาร ระดับ ผบ.ร้อยรายหนึ่ง ได้กล่าวว่า ต้องการให้มีการนำเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นใน กอ.รมน.ภาค 4 มาตีแผ่ เพื่อให้ส่วนกลางได้รับรู้ถึงความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น และเป็นปัญหาของการดับ “ไฟใต้” ที่ไม่ได้ผลเพราะเอาเข้าจริง กำลังที่มีอยู่ในพื้นที่ถ้าหักทั้งที่ลาพัก และที่เป็น “กำลังพลผี” แล้ว มีเพียง 50% ของจำนวนเต็มเท่านั้น

ในขณะเดียวกันปรากฏว่า เพจของ ขบวนการ “บีอาร์เอ็น” ที่เป็นปีกทางการเมืองที่ทำหน้าที่ “ไอโอ” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการนำเรื่องของ “ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์” ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเป็น “กำลังพลผี” มาใช้ในการทำ “ไอโอ” เพื่อสร้างความเสียหายให้กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นจำนวนมากกว่า 20 เพจ.