เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น (สสจ.) กล่าวถึงกรณีองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ออกมาระบุว่าได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าเพียง 700 โด๊ส ทั้งๆ ที่มีการขอไปทั้งหมด 1.4 พันโด๊ส ว่า จากการสอบถามความสมัครใจในการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โด๊สของบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าในจังหวัดขอนแก่น มีทั้งคนที่อยากฉีดแอสตราเซเนกา และคนที่จะฉีดไฟเซอร์ ซึ่งในส่วนของวัคซีนไฟเซอร์มีจำนวนผู้ที่ต้องการฉีด 1.8 หมื่นคน แต่วัคซีนส่งมาลอตแรก 9,360 โด๊ส หรือมาเพียงครึ่งเดียว โรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งครบ 100% เลยก็ไม่ได้ เพราะทุกที่ก็มีการทำงานกับผู้ป่วยโควิดเหมือนกัน รพ.ชุมชนต่างๆ ก็มีคนไข้เพิ่มขึ้น ดังนั้นก็ต้องจัดสรรที่ได้มาให้สถานพยาบาลทุกแห่ง แล้วทางสถานพยาบาลนั้นก็ต้องลำดับความสำคัญในการฉีดให้กับบุคลากรของตัวเอง เพราะอย่างที่ชี้แจงวัคซีนไม่ได้มาครั้งเดียว 100%  

“เฉพาะข้อมูลที่ รพ.ขอนแก่น จากการสำรวจและลงทะเบียนเลือกแอสตราฯ 1.4 พันคน และเลือกไฟเซอร์ 1.4 พันคน เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตราฯ มาก็จะส่งให้ครบ 100% ตามที่ขอ ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งมาทั้งจังหวัด 9,360 โด๊ส ก็ต้องแบ่งให้หลายที่ รพ.ขอนแก่น ก็ได้ไปก่อน 720 โด๊ส รวมตอนนี้ รพ.ขอนแก่น ทราบว่ามีการบูสเข็ม 3 แล้วทั้งแอสตราฯ และไฟเซอร์ 2.1 พันคน คิดเป็น 72% ของจำนวนบุคลากร” นพ.สสจ.ขอนแก่น กล่าว  

นพ.สมชายโชติ กล่าวต่อว่า ต้องย้ำว่าวัคซีนมาไม่ได้ครบ 100% เราต้องกระจายตามสัดส่วน ไม่ใช่ว่าที่เหลือเราจะไม่ส่งให้ตามที่ขอ เพียงแต่รอลอตต่อไปที่จะส่งลงมา เมื่อมาถึงทางเราก็จะส่งไปให้เพิ่ม อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้หาก รพ.ไหนมีความจำเป็นมาก จำเป็นน้อย สามารถทำเรื่องยืมวัคซีนกันข้ามเขตได้ ทั้งนี้นอกจากยอดการสำรวจรอบแรก และส่งความต้องการไปที่กระทรวงสาธารณสุขรอบแรก 1.8 หมื่นโด๊สแล้วนั้น เมื่อช่วงเสาร์ -อาทิตย์ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้มีการเปิดสำรวจและลงทะเบียนเพื่อเก็บตกบุคลากรที่อาจจะตกหล่นไปในรอบแรก จะปิดการลงทะเบียนในวันนี้ (9 ส.ค.) เพื่อส่งขอรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าเพิ่มเติม.