สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ว่ากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อศาลรัฐบาลกลาง ในเขตฟลอริดาใต้ เกี่ยวกับการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ค้นคฤหาสน์ของทรัมป์ ภายในรีสอร์ทมาร์-อา-ลาโก ที่เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่าเป็นการสอบสวน “การเคลื่อนย้ายและการจัดเก็บเอกสารลับด้านความมั่นคงโดยไม่เหมาะสม” และ “การเปิดเผยเอกสารลับทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต”


ทั้งนี้ เอฟบีไอตรวจสอบกับหอจดหมายเหตุแห่งชาติ พบว่า มีการเคลื่อนย้ายเอกสาร 15 กล่อง เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ออกจากทำเนียบขาวไปยังมาร์-อา-ลาโก โดยเอกสารทั้งหมดมีเนื้อหาเกี่ยวกับความมั่นคง 67 ชุดถือเป็น “เอกสารลับ” 92 ชุด ถือเป็น “ความลับ” และอีก 25 ชุด ถือเป็น “เอกสารลับสุดยอด”

เนื้อหาตอนหนึ่งจากคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรของเอฟบีไอ ที่ระบุเกี่ยวกับเอกสารซึ่งหายไปจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ


ขณะที่นายเมอร์ริค การ์แลนด์ รมว.ยุติธรรมของสหรัฐ ใช้อำนาจภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับการจารกรรมข้อมูลลับ อนุมัติให้เอฟบีไอตรวจค้นคฤหาสน์ของทรัมป์ ที่มาร์-อา-ลาโก โดยสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานด้วยว่า เอกสารเหล่านั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับ “อาวุธนิวเคลียร์”


ด้านทรัมป์ยื่นคำร้องต่อศาล เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพลเมือง ตามบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 4 ด้วยการ “ตรวจค้นโดยปราศจากเหตุผล” และประณามว่า “เป็นการล่าแม่มด” โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พ.ย.นี้


อนึ่ง อดีตผู้นำสหรัฐเรียกร้องศาลพิจารณาใช้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ต่อ “เอกสารลับทั้งหมด” ที่เอฟบีไอยึดได้ โดยเสนอให้มีการแต่งตั้ง “ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนกลาง” ร่วมตรวจสอบเอกสารทั้งหมด และจนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว เอฟบีไอไม่ควรเข้าถึงชุดข้อมูลเหล่านั้น.

เครดิตภาพ : REUTERS