สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของหมู่เกาะโซโลมอน เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันอังคาร เรื่องการไม่อนุญาตให้เรือรบของประเทศใดก็ตามเข้าจอดเทียบท่าในทุกกรณี จนกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของหมู่เกาะโซโลมอนจะเสร็จสิ้นการกำหนดมาตรการใหม่ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในระดับเดียวกันกับทุกประเทศ


การประกาศดังกล่าวของรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำออสเตรเลีย เปิดเผยเกี่ยวกับการที่ได้รับแจ้งข้อมูลนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เรือพยาบาล “ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี” ของกองทัพเรือสหรัฐ ได้รับอนุญาตให้จอดเทียบท่าที่หมู่เกาะโซโลมอน เนื่องจากเดินทางมาถึงก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้ แต่กำหนดการเข้าจอดเทียบท่าของเรือตรวจการณ์ยามฝั่ง “ยูเอสซีจีซี โอลิเวอร์ เฮนรี” ต้องเลื่อนออกไปก่อน โดยรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนให้เหตุผลว่า สหรัฐดำเนินการขออนุญาต “ช้าเกินไป”


ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างหมู่เกาะโซโลมอนกับสหรัฐ และพันธมิตรอีกหลายประเทศ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทวีความตึงเครียดเป็นลำดับ นับตั้งแต่หมู่เกาะโซโลมอนกับจีนลงนามร่วมกันในข้อตกลง ว่าด้วยการยกระดับการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงระดับทวิภาคี เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา


จนถึงตอนนี้ จีนและหมู่เกาะโซโลมอนยังปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของข้อตกลง แต่ยืนยันว่า ความร่วมมือดังกล่าวไม่ครอบคลุม และไม่อนุญาตให้จีนเข้ามาตั้งฐานทัพ

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาบางส่วนของร่างข้อตกลงที่หลุดรอดออกมาก่อนหน้านี้ ระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งอาจนำเรือมาจอดเทียบท่า เพื่อเติมเสบียง หรือเดินทางผ่านหมู่เกาะโซโลมอน แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากหมู่เกาะโซโลมอนก่อน ขณะเดียวกัน อาจมีสารวัตรทหารจากจีนเข้ามาประจำการในหมู่เกาะโซโลมอน “เพื่อรักษาความสงบ”.

เครดิตภาพ : REUTERS