สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 ก.ย. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายกระแส ว่าศาลในกรุงเนปิดอว์มีคำพิพากษา เมื่อวันศุกร์ ว่านางออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา มีความผิดจริง ตามคำฟ้องในข้อหาทุจริตการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อเดือน พ.ย. 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ภายใต้การนำของเธอ ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย และให้รับโทษตามความผิดจากข้อหาดังกล่าว ด้วยการรับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี พร้อมทั้งใช้แรงงานหนัก
ทั้งนี้ ยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลทหารเมียนมา ว่าบทลงโทษใช้แรงงานหนักจะเป็นไปในรูปแบบใด ขณะที่จำเลยร่วมคนสำคัญ คือ อดีตประธานาธิบดีวิน มยินต์ ได้รับบทลงโทษแบบเดียวกัน
คำพิพากษาที่ออกมาเท่ากับว่า ตอนนี้นางซูจี วัย 76 ปี มีบทลงโทษจำคุกสะสมรวมมากกว่า 17 ปีแล้ว และหากศาลพิพากษาว่า เธอมีความผิดตามคำฟ้องที่เหลืออยู่อีกหลายสิบคดี หนึ่งในนั้น คือคดีการแพร่งพรายข้อมูลลับของรัฐโดยมิได้รับอนุญาต นางซูจีต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำเป็นระยะเวลานานกว่า 190 ปี
อนึ่ง พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ว่า “ยินดีพิจารณาการเจรจา” กับนาง ซูจี แต่ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้น เมื่อเธอเสร็จสิ้นการรับพิจารณาคดีทั้งหมดตามกระบวนการทางกฎหมายแล้วเท่านั้น และ “ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของอีกฝ่ายด้วย”
ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่นางซูจีตกเป็นจำเลยนั้น “ไม่ได้ร้ายแรง” และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอได้รับ “ความเมตตา” แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการได้มากกว่านี้
ท่าทีดังกล่าวของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังการพบหารือกับนางโนลีน เฮย์เซอร์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเมียนมาของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ทำเนียบในกรุงเนปิดอว์ โดยนับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่รัฐบาลทหารเมียนมาอนุญาตให้ทูตพิเศษยูเอ็นเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564.
เครดิตภาพ : REUTERS