จากกรณี เหตุการณ์ความรุนแรงในโรงเรียน เมื่อครูใช้ฝ่ามือตบศีรษะนักเรียนชายคนหนึ่งอย่างแรงจนหัวทิ่มไปกับแรงตบจนฟุบไปกับโต๊ะเรียน อีกทั้งยังใช้ไม้เรียวฟาดไปมา จนทำให้เด็กนักเรียนในห้องทนไม่ไหว เพราะอีกฝ่ายอารมณ์รุนแรง ถ่ายคลิปไปให้ผู้ปกครองดู ซึ่งช่วงดังกล่าว มีเด็กหลายคนไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะกลัวจะโดนทำร้าย จนคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโซเชียล จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ภายหลังทางฝ่ายงานเกี่ยวข้องสั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ย้ายครูรายดังกล่าวไปช่วยราชการยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 (สพป.สมุทรปราการ เขต 1) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (19 ม.ค.66) นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 11 ขวบ พร้อม ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เดินทางมาที่ สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ ครูสาว ที่ตบศีรษะเด็กอย่างแรง โดยที่พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวัน พร้อมส่งตัว ด.ช.บี ไปตรวจร่างกายที่ รพ. และนัดทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กต่อไป

ทั้งนี้ ด.ช.บี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า วันนั้นครูบอกให้ทุกคนเอาหนังสือขึ้นมา ซึ่งหนังสือตนอยู่ใต้โต๊ะ ส่วนที่วางอยู่บนโต๊ะเป็นหนังสือของเพื่อนซึ่งก่อนหน้านั้น ตนยืมนำมารองพื้นเพื่อเขียนวงกลมในสมุด ครูถามว่าหนังสือใคร ตนบอกหนังสือเพื่อน ครูไม่ทันได้ถามว่าตนเอาหนังสือมาหรือไม่ ก็ตบหัวตนอย่างแรง จนต้องเอามือมาขวางไว้ เพราะกลัวจะโดนตบอีกหลายที ปกติครูจะใช้ไม้เรียวฟาดมือประจำ ซึ่งจะตีแรงมาก วันไหนอารมณ์ดีก็สอนดีไม่ได้ทำโทษ แต่ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็จะทำโทษพวกตนอย่างที่เห็นในคลิป โดยวันเกิดเหตุมีคนในห้องถูกตียกชั้น จะมีคนไม่โดนตีแค่ 3-4 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่คนโดนตีจะเป็นคนไม่ค่อยทำงานหรือลืมทำการบ้าน ซึ่งวิชาที่ครูสอน เป็นช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.00 น.

ด้าน น.ส.เอ แม่ของเด็กผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนยุ่งอยู่กับงานทั้งวันจึงไม่รู้เรื่องว่าลูกถูกกระทำอย่างรุนแรง แต่เพราะมีเพื่อนในไลน์กลุ่มโรงเรียน ป.5 แชตมาหาตนเพื่อให้ดูคลิปที่เกิดขึ้น หลังเห็นคลิปแล้วรับไม่ได้กับการกระทำของครู เพราะลูกเอามือป้องหัว ด้วยความเจ็บปวด ก็ยังโดนตบอีก ตบสั่งสอนครั้งเดียวไม่พอ ตบรอบ 2 ซ้ำ แบบนี้มันเกินไป ตนจึงไลน์ไปถามว่า ตั้งแต่ลูกโดนตบหัวอย่างแรง ก็ยังไม่เห็นครูประจำชั้นหรือครูที่กระทำต่อเด็กติดต่อมาแต่อย่างใด เช่นนี้หมายความว่ายังไง? ปรากฏว่าผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง ครูที่ก่อเหตุรีบโทรศัพท์มาขอโทษ

ทั้งนี้ ตนยังยืนยันที่จะให้ลูกเรียนโรงเรียนเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เคสลูกชายที่เพิ่งถูกกระทำ เพราะมารู้ว่าลูกชายคนโตที่เรียนจบออกไปแล้วก็โดนกระทำไม่ต่างกัน รวมทั้งลูกหลานชาวบ้านอีกหลายคนโดนกระทำ ถูกตีจนก้นบวมแตก เด็ก ๆ ต่างยืนยันว่า เป็นครูคนเดียวกัน ถ้าไม่เห็นในคลิปว่าเด็กถูกกระทำอย่างรุนแรง ก็คงไม่มีใครรู้

พ่อแม่เด็กบางรายบอกตนว่า ขอให้ช่วยหน่อยเพราะเขาไม่กล้าออกสื่อแบบตน ลูกหลานโดนกระทำมาหลายรุ่นแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้เอาผิดเด็ดขาด หรือเอาผิดให้ถึงที่สุด แค่เตือนครั้งสุดท้ายก่อน ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานในข้อหาทำร้ายร่างกาย เตือนครั้งสุดท้ายว่า “อย่ากระทำเช่นนี้อีก!!” การลงโทษเด็กมีหลายวิธี แขนขาเด็กตีได้ แต่หัวและส่วนอื่น ๆ มันไม่ใช่ มันรุงแรงไปสำหรับเด็ก ขนาดตนเป็นแม่ยังไม่เคยกระทำต่อลูกรุนแรงแบบนี้เลย ร่างกายของน้องก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ด้วย

ขณะที่ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้ตนพาผู้ปกครองของเด็กที่ถูกครูตบหัวมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคุณครู ก็เพิ่งจะผ่านวันครูแห่งชาติมา สมัยนี้เขาไม่มีตีกันแล้วเพราะตามกฎระเบียบ พ.ร.บ.ของทางครู มันจะมีระบุไว้เลย มี 4 สถาน 1.ได้แค่ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ 4..ทำเหตุการณ์เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะมาทำนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ ถือว่าผิดมันหมดสมัยแล้ว

“การตบ เตะ ต่อย ในปัจจุบันนี้ ครูทำไม่ได้แล้ว ตนเป็นอาจารย์ยังไม่เคยทำแบบนั้นเลย วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพที่เราสามารถสั่งสอนเด็กได้ด้วยคำพูด ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีไม่ใช้ความรุนแรง ขอให้เป็นเคสตัวอย่าง เพื่อให้รู้ว่าอย่าทำอย่างนี้อีก การที่เราเป็นครูบาอาจารย์ทำแบบไม่ได้ เพราะมันมีกฎระเบียบอยู่ หากทำไม่ได้ ระงับอารมณ์ไม่ได้ ให้ลาออกไปเปิดโอกาสให้คนที่เขาทำได้มาทำงานนี้แทน หรือหากมีอาการป่วยยับยั้งตัวเองไม่ได้ ก็ต้องไปรักษาอาการป่วยให้หายก่อน” ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าว.