เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ชมรมกลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย ประมาณ 800 คน ไปชุมนุมปักหลักขอให้ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ให้ชะลอการเพิ่มสลากดิจิทัล และเพิ่มจำนวนสลากให้เพียงพอกับผู้ค้าสลากของปี 58 และปี 65 เพื่อให้ผู้ค้าหรือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการไม่มีสลากจำหน่ายได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี

นายสำอาง ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมกลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้าเสรีทั่วไทย เปิดเผยว่า เราขอให้กองสลากดำเนินการจัดสรรสลากฯให้เพียงพอ เนื่องจากตอนนี้จำนวนสลากฯไม่เพียงพอต่อกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มผู้ค้าสลากฯหลากรายได้รับความเดือดร้อน จากเดิมที่มีสลากฯขายทุกงวด แต่ 2 งวดที่ผ่านมาไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเราจะได้รับสลากฯหรือไม่ เนื่องจากทางกลองสลากได้เพิ่มโควตาใหม่จำนวน 70,000 ราย รวมคนที่อยู่ในระบบเดิมเป็น 180,000 ราย ซึ่งเดิมสลากฯที่จัดสรรให้พวกเราคือ 120,000 รายเท่านั้น โดยจะมีคนผิดหวังจำนวน 60,000 รายต่องวด

นายสำอาง ยังเล่าอีกว่า การที่จะได้รับสลากฯมานั้นต้องไปกดจองล่วงหน้าทุกๆ วันที่ 5 และวันที่ 20 ของทุกเดือน โดยต้องไปกดจองที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย ปกติไปกดรับคิวที่ 10 ก็ยังได้จองสลากอยู่ แต่ตอนนี้หนึ่งตู้จองได้ไม่เกิน 5 คิว เนื่องจากสลากฯมีจำนวนจำกัด คือเกิดการตบตีทะเลาะวิวาทเพื่อแย่งคิวที่ 1 หน้าตู้จนเป็นข่าว ซึ่งปัญหานี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2558-2559 แต่ทางกองสลากแก้ปัญหาโดยการพิมพ์สลากฯเพิ่มจนมาเป็นร้อยล้านฉบับในปัจจุบัน และปัญหานี้ก็วนกลับมาที่เดิมอีกครั้ง

ด้าน นายลวรรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า บรรยากาศการจำหน่ายสลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยในวันที่ 5 ก.ย.65 เวลา 16.00 น. มียอดจำหน่าย 10,774,749 ใบ จากจำนวนสลากฯ ทั้งหมด 11,453,000 ใบ ทำให้คงเหลือ 678,251 ใบ มีจำนวนผู้ซื้อ 1,515,165 ราย

ขณะเดียวกันจะนำผลตอบรับด้านต่างๆ ทั้งฝั่งคนซื้อและคนขายมาพิจารณาร่วมกันในทุกมิติ เพื่อให้ผู้ค้าสลากฯระบบเดิมมีเวลาปรับตัว วางแผนการจำหน่ายสลากฯได้อย่างถูกต้อง และช่วยรักษาสมดุลระหว่างผู้ค้าในระบบเก่าและระบบดิจิทัลให้อยู่ร่วมกันได้ โดยตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปีจะมีสลากฯใบ 80 บาท จำหน่ายในระบบได้ครบ 20 ล้านใบ.