เมื่อวันที่ 6 ก.ย. สืบเนื่องจากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Punya Hansivathip ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพประกอบใจความระบุถึง การเตือนภัยให้พ่อแม่ทุกคนเป็นอุทาหรณ์ เกี่ยวกับการพาลูกไปเที่ยวสวนสนุกที่ต้องการได้รับความสุขและความสนุก แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนเป็นพ่อขณะที่คอยดูแลลูกสาวในระหว่างวิ่งเล่นในสวนสนุกในร่มแห่งนี้ ต้องประสบอุบัติเหตุสาหัสจากโครงสร้างที่เป็นคานของสวนสนุกดังกล่าว โดยที่ไม่มีป้ายเตือนให้ระวังหรือไม่มีแม้พนักงานคอยกำชับให้ระมัดระวังถึงจุดเสี่ยงดังกล่าว ท้ายที่สุด คนเป็นพ่อถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เพราะมีอาการช็อกตัวสั่นหลังประสบอุบัติเหตุ และเมื่อทำ MRI แพทย์พบว่ากระดูกทับเส้นประสาท 2 ข้อ ซึ่งเป็นที่เดียวกับการควบคุมการทำงานของแขนขาและการเต้นของหัวใจ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนี้มีพนักงานของสวนสนุกดังกล่าวตามมาที่โรงพยาบาลเพียง 1 คน และเมื่อเข้าสู่การรักษาเกือบ 2 เดือน ทางสวนสนุกกลับไม่ได้แสดงความรับผิดเท่าที่ควร การผ่าตัดของคนเป็นพ่อ ต้องผ่าตัดถึง 2 รอบ โดยเฉพาะค่ารักษา เบื้องต้นทะลุไปกว่า 2.8 ล้านบาท ขณะที่ทางบริษัทเจ้าของสวนสนุกดังกล่าว เสนอการเยียวยาโดยแจ้งว่า เห็นแก่ความสัมพันธ์ของลูกค้า กับ บริษัท เลยจะจ่าย 10% ของค่ารักษาที่เกินจากประกันส่วนตัวที่จ่ายออกไป คือ 80,000 บาท สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ไม่เพียงแต่สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา เพราะอุปกรณ์ของสวนสนุกได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตและจิตใจของเจ้าของโพสต์เป็นอย่างมาก

อุทาหรณ์! พาลูกเที่ยวสวนสนุก พ่อเดินชนของเล่น ทำกระดูกทับเส้นประสาท

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามพูดคุยกับ น.ส.ปุณยา หาญศิวาทิพย์ อายุ 39 ปี เจ้าของโพสต์และเป็นภรรยาของ นาย ชิ ปิง กุง หรือ อิริค อายุ 41 ปี ชาวไต้หวัน ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุปกรณ์ในสวนสนุกดังกล่าว เพื่ออัพเดทถึงการรักษา การกายภาพบำบัด ความรู้สึก และการส่งเสียงเรียกร้องถึงความปลอดภัยจากผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนจากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง

โดย น.ส.ปุณยา เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาบ่ายโมงเป็นต้นไป ในวันนั้นตนและสามีได้พาบุตรสาวทั้งสองคนไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยนายอิริค สามี ได้พาบุตรทั้งสองเข้าไปเล่นในสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ แต่ตนไม่ได้เข้าไปด้วย ระหว่างรอจึงไปเดินเล่นที่โซนเฟอร์นิเจอร์ จากนั้นได้มีสายเรียกเข้าเป็นเบอร์แปลกโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของตน พอรับสายจึงทราบว่าเป็นบุตรสาวขอยิมโทรศัพท์ของคนในสวนสนุก โทรฯ มาบอกว่า ‘ป๊าเดินชนของเล่น ล้มลุกไม่ขึ้น’ พอได้ยินเช่นนั้นตกใจและรีบวิ่งกลับไปดู สิ่งที่เห็นคือแฟนนอนหงาย แต่กระดุกกระดิกไม่ได้ สักพักมีพยาบาลเข้ามาให้ยาดม และเรียก Fireman เพื่อให้เข้ามาหิ้วปีกสามี แต่ตนมองเล้วรู้สึกว่า เสี่ยงอันตรายมากหากย้ายร่างสามีเช่นนั้น

โดยสามีได้แจ้งตนว่า “ชา ชาทั้งตัว” ตนจึงขอให้เรียกเป็นรถกู้ภัยฉุกเฉินดีกว่า จากนั้นจึงได้เรียกรถกู้ภัยจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มารับตัวสามีไป พอถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล และแพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยแล้ว จึงมาแจ้งกับตนว่า ให้ทำใจดี ๆ เพราะมีภาวะช็อกไปหนึ่งครั้ง ซึ่งจากการทำ MRI พบว่ากระดูกทับเส้นประสาทไป 2 ข้อ โดยจุดที่ทับทำให้ระบบประสาททั้งแขนและขา รวมถึงการเต้นของหัวใจ ต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุดเพื่อเอาตัวที่ทับเส้นออก จึงได้ผ่าตัดในคืนต่อมา หลังผ่าตัดได้พักรักษาไปเกือบสัปดาห์ และพบว่าสามีมีแผลกดทับ ปรึกษาขอความเห็นจากกับแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนอีกแห่ง ทราบว่าต้องผ่าตัดด่วน ต้องรีบเปิดข้อกระดูกอีกสี่ข้อข้างหลัง เพื่อขยายวงกระดูกรักษาให้ดีกว่านี้ ตนจึงย้ายสามีมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ต่อ และได้ผ่าตัดในเช้าวันต่อมาทันที ก่อนจะนอนพักรักษาตัวและย้ายกลับมารักษาที่บ้านแทน โดยค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของโรงพยาบาลแห่งแรก ประมาณ 830,000 บาท ส่วนโรงพยาบาลแห่งที่สองยอด ประมาณ 2,020,000 บาท ทั้งนี้ ตนอยากถามบริษัทเจ้าของสวนสนุกว่า ถ้าสามีตนไม่มีประกัน ครอบครัวเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะสามีก็เป็นหัวหน้าครอบครัว

น.ส.ปุณยา เผยถึงการติดต่อของบริษัท สนามเด็กเล่นดังกล่าวว่า ตอนแรกเขาให้ตนไปคุยกับโบรกเกอร์ประกัน โดยตนก็ได้แจ้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และส่งบิลค่าใช้จ่ายให้ดู เเละเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้ส่งตัวแทนจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์มาพบและมอบกระเช้าให้ตนและสามี และสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นกับตนไป สุดท้ายเขาก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า ประกันขอไม่จ่าย เพราะมองว่าเรื่องนี้ มันไม่ได้เข้าข่ายความผิดของเขา ดังนั้น เขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและบริษัท จึงขอจ่าย 10% จากส่วนเกินที่สามีเราออกจากโรงพยาบาลมา โดยยอดจาก 800,000 กว่าบาท บริษัทจ่ายให้ 80,000 บาท แต่ตนก็มองว่า ความเสียหายที่สามีตนได้ประสบจากสถานที่ของคุณ มันควรที่จะมีความรับผิดชอบจากทางบริษัทมากกว่านี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับความสูญเสียที่ครอบครัวตนต้องเผชิญ

ส่วนแนวทางการรักษานายอิริคนั้น น.ส.ปุณยา เผยว่า ปัจจุบันยังต้องทำกายภาพอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลา 3-6 เดือน แต่คุณหมอก็ไม่สามารถบอกชัดเจนได้ว่า จะต้องทำกายภาพไปนานแค่ไหน และไม่คอนเฟิร์มได้ว่าสามีจะกลับมาสมบูรณ์กี่เปอร์เซ็นต์ แต่การทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง อย่างน้อยที่สุดคือ 1 ปี เพื่อให้สามีกลับมามีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด แต่ถ้าให้เกิดผลลัพธ์ที่สุดคือต้องกายภาพตลอดชีวิต ส่วนกระดูกช่วงสะโพกกับช่วงขา คือส่วนที่สามีได้รับผลกระทบด้วย เลยทำให้สามียืนได้ไม่นาน เริ่มเดินลำบาก และช่วงมือซีกขวา มันช้ากว่าซีกซ้าย ทำให้สามีไปถนัดซีกซ้ายแทน โดยมือข้างซ้ายสามารถจับช้อนได้ แต่ยังไม่ถนัด ในขณะที่มือข้างขวานั้นกลายเป็นไม่สามารถใช้งานได้เลย เนื่องจากคุณหมอแจ้งว่าระบบประสาทจะกลับมาในส่วนที่ไม่ถนัดก่อน ส่วนการนัดหมายจากแพทย์หลังจากนี้นั้น ในวันที่ 12 ก.ย. นี้ ตนจะต้องพาสามีไปพบแพทย์ 4 ท่าน ได้แก่ แพทย์เกี่ยวกับระบบประสาท การกายภาพ และระบบปัสสาวะ เป็นต้น

น.ส.ปุณยา เผยถึงสถานการณ์อันแสนสาหัสของการตั้งรับของสามี ว่า ตอนที่สามีรู้สึกตัวว่าขยับไม่ได้ เขาถามตนว่า “เขาจะเดินได้หรือไม่” และเขาก็มองไปที่ตึกพร้อมพูดว่า “อย่าให้ขยับได้ จะวิ่งไปที่ตึกเลย” เขาบอกว่า เขาไม่อยากอยู่ไม่อยากเป็นภาระเรา (พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ) แต่ตนก็ให้กำลังใจตลอดการรักษาที่ผ่านมา ว่า “เรากับลูกรออยู่” อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำลังใจเขาดีขึ้นบ้างแล้ว ทั้งนี้ ตนยังจำได้แม่นยำว่า ในวันเกิดเหตุ สามีและลูกสาวทั้งสองคนปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่ทุกอย่าง เช่น การสวมถุงเท้า แต่ตนก็ไม่คาดคิดเลยว่าพอสามีได้รับบาดเจ็บจากอุปกรณ์ของผู้ประกอบการ เหตุใดจึงไม่มีการแสดงความรับผิดชอบที่มากกว่านี้ สำหรับผลกระทบทั้งหมดที่เรา ในฐานะผู้ใช้บริการ สมควรจะได้รับ ซึ่งตนขอยืนยันว่า ในบริเวณดังกล่าวที่สามีได้รับบาดเจ็บ ไม่มีแม้กระทั่งป้ายเตือนให้ระมัดระวัง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของสนามเด็กเล่นยังเคยบอกกับตนว่า ปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ แต่ในวันนั้นไม่มี โดยเจ้าหน้าที่ตรงจุดนี้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนให้ระวังศีรษะ และคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการในสนามแห่งนี้

น.ส.ปุณยา ยังฝากถึงผู้ประกอบการว่า จริง ๆ แล้วคานลักษณะในบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่จะชน เด็กที่มีความสูงเลยจากคานนี้ก็มีสิทธิชนได้ เพราะคานไม่สูงเลย ตนดูแล้วความสูงของคานนั้นห่างจากพื้นไม่น่าเกิน 160 ซม. นอกจากนี้ เท่าที่ตนได้ไล่อ่านบรรดาคอมเมนท์ใต้โพสต์ของตัวเองก็พบว่า มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุปกรณ์ในสนามเด็กเล่นจำนวนไม่น้อย กระจายไปตามสาขาต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็รักษาพยาบาลกันเอง จ่ายค่ารักษาพยาบาลเองไม่ได้รับการติดต่อชดเชย เยียวยาจากผู้ประกอบการ ตนจึงอยากให้ผู้ประกอบการได้นำเหตุการณ์ของผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ นำไปปรับปรุงแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อจิตใจและร่างกายของใครอีกแล้วในอนาคตต่อจากนี้ เช่น มีป้ายเตือน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดคอยเตือนหรือแจ้งให้ระมัดระวัง หรือแก้แบบแปลน

สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญานั้น น.ส.ปุณยา ระบุว่า ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางแก้ว และตอนนี้ก็มีทนายความเรียบร้อย หากทางบริษัทจะเข้ามาพูดคุยด้วย ก็จะมอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ประสานพูดคุยในรายละเอียดแทน เพราะที่ผ่านมา เหมือนตนต้องเป็นฝ่ายไปติดต่อบริษัทอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งนี้ที่ผ่านมามีเพียงน้องที่เป็นรองผู้จัดการสาขาเท่านั้น ที่ติดต่อมาพูดคุย คอยสอบถามอาการความคืบหน้าของสามี แต่เป็นในนามส่วนตัวมากกว่า

“ความปลอดภัยของผู้ที่เข้าไปเล่นคือความสำคัญที่สุด เพราะคุณได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายทุกอย่าง รวมถึงขอให้เราปฏิบัติตามกฎ เราก็ปฏิบัติทุกอย่าง ดังนั้น ในเมื่อเราปฏิบัติตามกฎ แต่กลับประสบอุบัติเหตุจากอุปกรณ์ของสถานที่ของคุณ แต่การเยียวยา การปรับปรุงแก้ไขจากความผิดพลาดนี้นั้นไม่มี จึงอยากให้ดำเนินการ เพราะนี่ไม่ใช่กรณีแรกและกรณีเดียว จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ครอบครัวของเราพัง กว่าจะกลับมาได้ ต้องใช้เวลากี่ปี อีกทั้งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ เราจะดูแลกันไปได้ภายในครอบครัวได้อีกกี่เดือน แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลย ความหวังของเราคืออยากให้สามีกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้มากที่สุด…” น.ส.ปุณยา กล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่จะขออนุญาตพาทีมข่าวไปดูการกายภาพบำบัดสามีที่นอนติดเตียงลม บริเวณด้านล่างอาคารที่พัก

ด้าน นายอิริค ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยกับทีมข่าวขณะกายภาพบำบัด ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขนาดเราเป็นผู้ใหญ่เรายังรับไม่ได้ แล้วถ้าเป็นเด็ก ๆ ที่ประสบเหตุ ไม่ว่าจะเป็นลูกของเรา หรือลูกใครที่ไปใช้บริการ มันจะบั่นทอนจิตใจมากกว่านี้อีก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้งหลาย เวลาก่อสร้างอะไร อย่างน้อย ๆ ต้องออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่หน่วยงานควบคุมเกี่ยวข้องออกขัอบังคับมา และการเป็นสวนสนุก มันยิ่งไม่ควรต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตรงบริเวณใดที่เสี่ยงอันตราย ควรมีการขึ้นป้ายแจ้งเตือนให้ระมัดระวัง เพื่อที่ผู้ใช้บริการจะได้หลีกเลี่ยงและปลอดภัย