เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2560 พ.ศ. … ไปแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปรัฐสภาจะส่งให้นายกรัฐมนตรี นําขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้บังคับเป็นกฎหมาย โดยระหว่างนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นการโอนภารกิจด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ไปให้ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา) และคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา) โดยจะดำเนินการใน 3 ส่วน เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุด

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า การเตรียมการรองรับฯ ส่วนที่ 1 สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ซึ่งดูแลศึกษาธิการจังหวัด เตรียมการถ่ายโอนภารกิจด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จาก กศจ.ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา รวม 245 เขตพื้นที่ฯ สำหรับงานเกี่ยวกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา ตลอดจนการให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดยังอยู่ที่ กศจ. ส่วนที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะได้รับภารกิจเรื่องการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจาก กศจ.ก็ต้องเตรียมคน และเตรียมระบบสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และบุคลากรให้มีความพร้อม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล พร้อมทั้งให้ สพฐ.เตรียมงบประมาณรองรับภารกิจใหม่ด้วย 

“ส่วนที่ 3 คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะต้องกำหนดองค์ประกอบ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการดำเนินงาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะเกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในร่างกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดไว้ด้วยว่า องค์ประกอบของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาต้องมีผู้แทน กศจ.อย่างน้อย 1 คน และนายอำเภอหรือผู้แทนอย่างน้อย 1 คน สำหรับกรุงเทพมหานครให้มีผู้อำนวยการเขต หรือ ผู้แทนอย่างน้อย 1 คน ร่วมเป็นองค์ประกอบด้วย โดย ก.ค.ศ.ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ” รมว.ศธ.กล่าว.