“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) หรือ “ยูซีไอ คองเกรส” ครั้งที่ 191 ที่เมืองวูลองกอง ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ในฐานะผู้แทนสมาคมกีฬาจักรยานฯ และผู้ที่ได้รับเกียรติจากสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ให้เป็นผู้แทนลงคะแนนเสียง 1 ใน 9 ผู้แทนจากทวีปเอเชีย

ที่ประชุมมีมติรับรองสหพันธ์จักรยานแห่งภูฏาน เป็นสมาชิกใหม่ของเอซีซี และสหพันธ์จักรยานแห่งโซโลมอนไอส์แลนด์ เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 201 และ 202 ของยูซีไอ และมีมติถอดถอนสมาชิกภาพเม็กซิโก ชั่วคราว เนื่องจากการบริหารของสหพันธ์จักรยานเม็กซิโก ไม่สอดคล้องกับธรรมนูญของยูซีไอ ส่วนการพิจารณาคืนสถานภาพก็ต่อเมื่อสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขและธรรมนูญของยูซีไอ

สำหรับสิ่งที่น่ายินดีคือการนำเสนอผลการดำเนินงานของศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่ง “เอ้” โกเมธ สุขประเสริฐ นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ในนักกีฬาของศูนย์ฝึกฯ ที่มีผลงานยอดเยี่ยม สามารถคว้าแชมป์เอเชีย ในการแข่งขันที่มาเลเซีย เมื่อเดือน ส.ค. สิ่งนี้เป็นผลพวงจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรของสมาคมฯ นั่นเอง

ส่วนผลการประชุมประเด็นอื่นที่น่าสนใจคือแนวทางการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางเพศของกีฬาจักรยาน ซึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะใช้ระบบความเท่าเทียมกันทั้งรายการแข่งขันและจำนวนนักกีฬาชายหญิง รวมไปถึงการพัฒนาความเท่าเทียมในประเภทอื่นๆ ของจักรยาน และสัดส่วนเรื่องการบริหารงานทั้งของยูซีไอ และชาติสมาชิกยูซีไอ ทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ยูซีไอ มีการประกาศเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลกประเภทต่างๆ ไปจนถึงปี 2028 โดยอีเวนต์หลัก ๆ คือ จักรยานประเภทลู่เยาวชนชิงแชมป์โลก ปี 2024 ที่จีน และปี 2025 ที่เนเธอร์แลนด์, จักรยานประเภทลู่ประชาชนชิงแชมป์โลก ปี 2024 ที่เดนมาร์ก, ปี 2025 ที่อาร์เจนตินา และปี 2026 ที่จีน, จักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลกปี 2024 ที่สวิตเซอร์แลนด์, ปี 2025 ที่รวันดา และปี 2026 ที่แคนาดา, จักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์โลก ปี 2024 ที่อันดอร์รา, ปี 2025 ที่สวิตเซอร์แลนด์, ปี 2026 ที่อิตาลี และปี 2027 ที่ออสเตรีย, จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก ปี 2024 ที่สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ในปี 2023 ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก ที่จะมีขึ้นในรูปแบบมหกรรมในคราวเดียวกัน ทั้ง 13 ประเภทของยูซีไอ โดยสกอตแลนด์ จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 3-13 ส.ค. ซึ่งมีเมืองกลาสโกว์ เป็นศูนย์กลาง ในขณะที่อีก 3 เมืองของสกอตแลนด์ จะเป็นเจ้าภาพร่วม คาดว่าจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มากกว่า 10,000 คน เข้าร่วม และประมาณการว่าจะมีผู้ชมจากทั่วโลกหลั่งไหลกันไปชมการแข่งขันมากกว่า 1 ล้านคน และ ยูซีไอ ได้กำหนดเจ้าภาพมหกรรมจักรยานชิงแชมป์โลกครั้งต่อไปแล้วในปี 2027 ที่เมืองฮูเอท ฝรั่งเศส

“ที่สำคัญ มร.เดวิด ลาปาเตียนท์ ประธานยูซีไอ ย้ำมาว่าในการจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก อยากให้กระจายการเป็นเจ้าภาพไปในแต่ละทวีป ซึ่งทวีปแอฟริกาโดย รวันดา จะเป็นเจ้าภาพ ในปี 2025 ขณะที่ทวีปเอเชีย แทบจะไม่เคยเป็นเจ้าภาพจักรยานชิงแชมป์โลก ประเภทถนนเลย มีเพียงญี่ปุ่นในปี 1990 และล่าสุดคือกาตาร์ ในปี 2016 เท่านั้น จากการจัดการแข่งขัน 98 ครั้งในประวัติศาสตร์ของยูซีไอ และในระหว่างการพักประชุม ก็มีชาติสมาชิกในสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย ได้มีการหารือกันในเบื้องต้นว่าหากทวีปเอเชียได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ ทุกคนลงความเห็นว่าไทย มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางของเอเชีย ไม่ว่าจะเดินทางมาจากยุโรป, เอเชีย, อเมริกา, แอฟริกาใต้, ตะวันออกกลาง ก็มีความสะดวก อีกทั้งเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยว และมีมาตรฐานจัดการแข่งขันจักรยานในระดับนานาชาติได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่าย” เสธ.หมึก กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้จะต้องมีการหารือและลงมติอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่สามัญของ เอซีซี เสียก่อน หากไทยได้รับการไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก ก็อาจจะไปจัดที่เชียงใหม่ หรือภูเก็ต ที่เป็นจังหวังสำคัญของการท่องเที่ยว ซึ่งยังคงต้องพิจารณากันให้รอบด้าน เนื่องจากเป็นงานใหญ่มาก ใช้งบประมาณและทรัพยากรมหาศาล ในการเป็นเจ้าภาพรายการใหญ่อย่างจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก ที่สำคัญต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกด้วย