เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 11 อิมแพค เมืองทองธานี ภายหลังจากที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาเปิดเผยถึงสรรพคุณของหญ้าฮี๋ยุ่ม หรือหญ้ารีแพร์ ว่าช่วยในเรื่องการกระชับช่องคลอดสำหรับผู้หญิงที่ผ่านการมีบุตร หรือผู้หญิงที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีแล้วนั้น ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ได้มีการสาธิตการใช้หญ้ารีแพร์ด้วยวิธีกรรมด้วยควัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการหญ้ารีแพร์ ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจร่วมเข้าฟังอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการหญ้ารีแพร์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงการใช้หญ้ารีแพร์ที่ถูกวิธีว่า การใช้หญ้ารีแพร์จะให้สรรพคุณแตกต่างกัน โดยวิธีการรมควันเฉพาะจุดนั้น จะช่วยลดการอักเสบ บวม สมานแผล ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ และช่วยกระชับช่องคลอด ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การรมด้วยควัน และการรมด้วยไอน้ำ แต่สิ่งที่ควรระวัง คือการเลือกใช้ตัวก่อความร้อนที่จะต้องไม่ลุกไหม้ โดยเลือกใช้ไม้ผุ นอกจากนี้หญ้ารีแพร์ที่นำมาใช้ ต้องมีอายุมากกว่า 45 วัน และต้องมีลักษณะเป็นหญ้าแดดเดียว คือ ไม่สดและไม่แห้ง ขณะเดียวกันจะต้องระวังไม่ให้เกิดความร้อนมากจนเกินไป และควรอบครั้งละประมาณ 15 นาที อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่ควรสูดดมโดยตรง เพราะควันจากการเผาไหม้อาจจะมีส่วนทำให้เกิดฝุ่นหินเกาะปอด ส่วนกรณีต้มดื่ม หรือชงเป็นชานั้นจะช่วยในเรื่องการบำรุงร่างกายและข้อเอ็น บำรุงเลือดลมไหลเวียนดี ลดการอักเสบ และชุ่มชื่นคอ ซึ่งในผู้หญิงหลังคลอด วิธีการรมควันเฉพาะจุดจะให้ผลดีที่สุด

ด้าน นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากที่เคยมีกรณีผู้เสียชีวิตหลังการอบตัวหรือการอยู่ไฟ เนื่องจากขาดออกซิเจนและการใช้วัตถุดิบมากจนเกินไปนั้น ทำให้เกิดความกังวลว่าประชาชนที่ซื้อหญ้ารีแพร์ไปใช้ จะใช้ผิดวิธีด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น กลุ่มผู้ใช้จะต้องศึกษาขั้นตอนการรมควันหญ้ารีแพร์อย่างถูกวิธี และใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ไม่เกิดอันตราย นอกจากนี้ในอนาคต อาจมีการพัฒนาการใช้หญ้ารีแพร์ โดยผลิตเป็นวัตถุดิบใช้ในธุรกิจสปา อาทิ วัตถุดิบอยู่ไฟแบบสำเร็จรูป ครีมทาผิว น้ำมันทาผิว ครีมรักษาแผล เป็นต้น.