จากกรณีกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ออกประกาศระบุวันที่ 22-26 ก.ย.65 ระหว่างเวลาประมาณ 17.00-19.00 น. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ระมัดระวังและติดตามระดับน้ำขึ้นสูงนั้น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า น้ำทะเลหนุนก็เป็นตัวที่ประกอบกับน้ำเหนือที่ปล่อยมา จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น เพราะฉะนั้นจุดอ่อนสำคัญที่สุดคือเขื่อนริมน้ำที่เคยพูดตั้งแต่ช่วงเดือนแรก รวมถึงเรื่องเขื่อนที่ยังมีฟันหลอ คงต้องไปเตรียมดำเนินการเฝ้าระวัง กทม.มอนิเตอร์ตลอดและต้องดูฐานน้ำประกอบน้ำเหนือที่ปล่อยมา ขณะนี้ทราบว่าปล่อยน้ำมาในระดับที่ 2,300 ลบ.ม. ถือว่ายังไม่ได้วิกฤติ แต่กำชับ ผอ.เขตทั้ง 17 เขต ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวัง ซึ่ง ผอ.เขตทราบอยู่แล้วว่า จุดเสี่ยงในพื้นที่ของตนเองนั้น อยู่จุดใด ตรงไหน

“จริงๆ แล้วทุกเขตรู้จุดอ่อนของตัวเองอยู่ จึงรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ ต้องไปดูแลหมู่บ้านไหน เพราะตอนนี้คือมีข้อดีดังที่ผ่านมา เราเห็นปัญหาตามจุดต่างๆ ก็เข้าไปเสริมก่อน”

นายชัชชาติ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนจะมีปัญหาที่แตกย่อยลงมา คือเมื่อน้ำขึ้นสูง การสูบน้ำออกอาจจะสูบได้ช้าและยาก เพราะบางทีหัวจุกมันอยู่ใต้น้ำ พอน้ำเป็นแรงดันก็อาจจะสูบยากขึ้น กทม.ต้องเตรียมตัวปั๊มน้ำสูบเพิ่มตามสถานี เช่น พระโขนง ซึ่งเป็นสถานีหลัก ก็ต้องรอดู อย่างเช่นเมื่อวานนี้ ฝนตกในเขตชั้นใน 60 มม. แต่ 24 ชั่วโมง 100 มม. แต่ระบายได้เร็วหมด แถวราชเทวี เมื่อเช้าวิ่งออกมาตรวจส่วนใหญ่อยู่ในภาพที่ไม่น่ากลัว ระดับน้ำในคลองแล้วก็พร่องออกหมด ที่ห่วงคือฝั่งธนบุรี เมื่อวานไปดูคลองราชมนตรี ก็พร่องได้เร็ว

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ระดับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดระดับน้ำต่างๆ ประกอบด้วย สถานีวัดระดับน้ำ “คลองบางเขนใหม่” ปริมาณน้ำสูงสุด เวลา 18.40 น. 1.86 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ระดับความสูงแนวเขื่อน 3.5 ม.รทก. ระดับน้ำต่ำกว่าแนวเขื่อน -1.64 ม.รทก. (ระดับน้ำเตือนภัย 3.3 ม.รทก.)

สถานีวัดระดับน้ำ “ปากคลองตลาด” ปริมาณน้ำสูงสุด เวลา 18.00 น. 1.77 ม.รทก. ระดับความสูงแนวเขื่อน 3.0 ม.รทก. ระดับน้ำต่ำกว่าแนวเขื่อน -1.23 ม.รทก. (ระดับน้ำเตือนภัย 2.8 ม.รทก.) ,สถานีวัดระดับน้ำ “บางนา” ปริมาณน้ำสูงสุด เวลา 18.10 น. 1.69 ม.รทก.
ระดับความสูงแนวเขื่อน 2.8 ม.รทก. ระดับน้ำต่ำกว่าแนวเขื่อน -1.11 ม.รทก (ระดับน้ำเตือนภัย 2.6 ม.รทก.) สถานีบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำไหลผ่านสูงสุด 2,283 ลบ.ม./วินาที กทม.สามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือได้ประมาณ 2,500-3,000 ลบ.ม./วินาที และบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพฯ วันที่ 24 ก.ย.65 น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 19.36 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.67 เมตร

ทางด้าน นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ยานพาหนะ อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงและกู้ภัยประจำจุดเสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังและรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเวลาดังกล่าว ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากอุทกภัยกรุงเทพมหานคร จัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยจากระดับน้ำที่อาจส่งผลกระทบบริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯ ได้อย่างทันท่วงที

ส่วนการฟื้นฟูเยียวยาสงเคราะห์ผู้ประสบภัยภายหลังจากอุทกภัยสิ้นสุดแล้ว จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง การสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งระเบียบ กทม.ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป.