เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ” ถึงสถานการณ์น้ำโดยไปตรวจสอบเรดาร์และนับข้อมูลจาก ผอ.ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร  

โดยบางช่วงของการไลฟ์สด ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้รายงานว่า สถานการณ์เช้าวันนี้ มีฝนปานกลางสลับหนัก ตั้งแต่ คลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง ทิศทางฝนจะถูกพัดออกไปทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ทำให้ทั่วกรุงเทพฯ เกิดฝนตกตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงเช้านี้ ส่วนการเคลื่อนที่ของฝนพัดมาจากทางทิศตะวันตก

สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนตกในครั้งนี้ มีปัจจัยมาจากร่องฝนเกิดขึ้นพาดผ่านประเทศไทย ทำให้กรุงเทพฯ มีฝนตกด้วย ตอนนี้พายุโนรูเคลื่อนที่ออกจากฟิลิปปินส์มาแล้วด้วยความเร็วประมาณ 140 กม.ต่อ ชม. โดยมีทิศทางเคลื่อนที่เข้าทางด้าน จ.อุบลราชธานี ซึ่งจากการคาดการณ์จะเข้าประเทศเวียดนามก่อนในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ต่อจากนั้นจะมาถึงไทยแถวๆ จ.อุบลราชธานี ตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ และมีอีกหนึ่งปัจจัยคือลมตะวันตกเฉียงใต้ จะพัดเข้ามามีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ฝนตกเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนปัจจัยที่จะทำให้พายุอ่อนกำลังลงตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คือความกดอากาศสูงจากจีน หรือลมหนาวจะลงมา ทำให้พายุอ่อนกำลังลงไป เมื่อมาถึงเวียดนามจะกลายเป็นไต้ฝุ่นและจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันเมื่อเข้าประเทศไทย แต่เรายังวางใจไม่ได้

ทางด้าน นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมในไลฟ์ว่า เนื่องจากวันนี้มีฝนพรำทั้งวัน ก่อนออกจากบ้านจึงอยากให้ประชาชนเตรียมตัวและขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนลื่น รถติด แต่ยังไม่มีรายงานน้ำท่วมขังในถนนสายหลัก ส่วนถนนย่อยพยายามเร่งระบายน้ำออกให้หมด และเนื่องจากร่องฝนพัดผ่านกรุงเทพฯ พอดี อาจทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง 

สำหรับสถานการณ์ของ กทม. ตัวพายุไต้ฝุ่นโนรูอาจจะไม่หนักมากโดยตรง แต่สิ่งที่จะมีผลกระทบคือ ถ้าฝนตกหนักในภาคกลาง สุดท้ายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มมากขึ้น กทม.จึงต้องเตรียมพร่องน้ำให้ต่ำกว่าระดับควบคุม ทั้งคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร รวมถึงต้องมีการเสริมคันกั้นน้ำบางจุดเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะหากว่าน้ำจากพายุเข้ามาเยอะ แม่น้ำเจ้าพระยาก็ต้องปล่อยมาเยอะ อาจทำให้ต้องเสริมคันเพิ่มขึ้นไปอีก 50 ซม. ในบางจุด ส่วนจุดเปราะบางก็เตรียมนำกระสอบทรายเข้าไป

ทั้งนี้ ปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันที่ 1-25 ก.ย.65 มีปริมาณฝนสะสมแล้ว 744.50 มม. แต่ยังไม่สูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยปริมาณฝนที่สูงสุดของ กทม.อยู่ในเดือน ก.ย.55 มีฝนสูงถึง 847 มม. ซึ่งต้องลุ้นกันว่าเดือนนี้จะทุบสถิติของ 10 ปี หรือไม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฝนอย่างเต็มที่