วันนี้ ( 26 ก.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กรมอุตุนิยมวิทยา บางนา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น “โนรู (NORU)” เพื่อติดตาม ประเมิน และรายงานสถานการณ์พายุร่วมกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภูมิภาค ทั้ง 5 ศูนย์ ประกอบด้วย เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี สงขลา และภูเก็ต เพื่อรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ และเตรียมพร้อมรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น “โนรู” ขึ้น เนื่องจากคาดว่าพายุลูกนี้จะขึ้นฝั่ง เวียดนามตอนกลางและมีผลกระทบกับประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 28-29 ก.ย. โดยเป็นพายุที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งประเทศไทย ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้วในบางพื้นที่ และแม่น้ำหลักส่วนใหญ่ก็มีน้ำเต็มและล้นตลิ่งแล้ว ซึ่งการทำงานของศูนย์อำนวยการฯ จะมีการ ประชุม Conference กับสถานีอุตุนิยมวิทยาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หรือบริเวณที่พายุจะเคลื่อนผ่าน โดยจะประเมินสถานการณ์ของพายุ และหากมีความรุนแรงจะมีการสั่งการ ให้ตรวจวัดสภาพอากาศและปริมาณฝนให้ถี่ขึ้นในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ข้อมูลช่วยในการประเมินสถานการณ์ให้มีความแม่นยำมากขึ้น

จากการคาดการณ์สถานการณ์ พายุลูกนี้จะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง วันที่ 28 ก.ย. และจะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนก่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 ก.ย. และคาดว่าอาจมีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ จนส่งผลทำให้เกิดน้ำไหลหลาก จึงต้องติดตามเพื่อแจ้งเตือน ประชาชนว่าพื้นที่ไหนที่มีปริมาณฝนตกมาก ซึ่งจะใช้เรดาร์ในการตรวจจับกลุ่มเฆม และปริมาณฝนที่ตกแต่ละพื้นที่ ว่าจังหวัดไหนที่มีความเสี่ยงก็ต้องรีบแจ้งเตือนประชาชนผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ ของกรมอุตุฯ และประสานกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน และองค์กรส่วนแกครองท่องถิ่นต่างๆ รวมถึง กทม. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด

“ตอนนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในระดับสูง กทม. ก็ต้องเตรียมพร้อม ถ้าจุดไหนรู้ว่าจะมีน้ำท่วมขังสูง รถวิ่งไม่ได้ ก็ต้องรีบแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งช่วงนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องน้ำอยู่แล้ว หากมีน้ำเต็มมาอีก ก็อาจจะประสบ ปัญหาหนักได้ อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกในวันนี้ ไม่ใช้อิทธิพลของพายุ เกิดจากร่องมรสุม ที่พาดผ่านประเทศไทย จึงทำให้ฝนตกหนักอยู่แล้ว แต่หากเจอพายุเข้าก็จะหนักขึ้นอีก จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยกระจายข่าว ด้วยว่าพื้นที่ไหนจะมีฝนตกหนักเพื่อประชาชนจะได้เตรียมรับมือ อย่างไรก็ตามหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องซึ่งหน่วยงานต่างๆก็มีเชื่อมโยงข้อมูลกันทั้งหมด คุยกันตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากกรมอุตุฯ ทางเฟซบุ๊ก เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านพายุลูกนี้ ไปได้โดยไม่มีประชาชนเเสียชีวิต” นายชัยวุฒิ กล่าว

ด้าน ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (26 ก.ย. ) พายุไต้ฝุ่น “โนรู” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 กันยายน 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 65

จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน – 1 ตุลาคม 65 ทั้งนี้ สามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.