เมื่อวันที่ 27 ก.ย. พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.เกาะสมุย ได้รับรายงานความคืบหน้าจาก พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ ทัพภะ สารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย ว่า จากรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติจำนวนหกคนได้ปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา นายเยฟกีนี อับดุลลิน สัญชาติรัสเซีย และนางเยกาเทอร์นา อับดุลลิน สองสามีภรรยา ได้เดินทางเข้าใช้บริการของ บอยส์ ออแกนิก คอฟฟี่ ตั้งอยู่ที่ ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

โดยระหว่างที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านได้มีชายฉกรรจ์ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติจำนวน 6 คน ประกอบด้วยสัญชาติรัสเซียและสัญชาติอื่นจำนวนหนึ่ง เข้ามาล้อมนายเยฟกีนีไว้ และหนึ่งในหกชายฉกรรจ์ทราบต่อมาได้เข้าข่มขู่ให้นายเยฟกีนีโอนเงินสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี จำนวน 3 ล้านดอลลาร์ เมื่อคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 113 ล้านบาท ให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว แต่นายเยฟกีนี มีเงินอยู่จำนวนเพียง 58,000 ดอลลาร์เท่านั้น การข่มขู่ดังกล่าวได้ทำให้นายเยฟกีนี ที่อยู่ในความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้โอนเงินคริปโตเคอร์เรนซี จำนวน 50,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 1.8 ล้านบาท ให้กับกลุ่มดังกล่าวไป

“ภายหลังโอนเงินคริปโตฯให้กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ขึ้นรถตู้สีดำจำนวนสี่คน และอีกสองคนได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น เอ็นแมกซ์ สีแดง โดยก่อนไปหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้พร้อมกล่าวว่า จะกลับมาไถเงินอีก” นายเยฟกีนี กล่าวกับเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พงษ์ขจร ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เกาะสมุย เร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุโดยร่วมกับตำรวจสืบสวนภาค 8 และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถตู้และรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายระบุแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวกลุ่มชายฉกรรจ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.