เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชี้แจงกรณีที่มีข่าวระบุว่า ลูกเขยนายอุปกิต ถูกจับกุมพร้อมนายทุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา ในคดียาเสพติดและฟอกเงิน ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของไทย ไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงได้ แต่ตนเคยอธิบายไปแล้วว่า มีความสนิทสนม กับ นายทุน มิน ลัต เพราะเคยทำธุรกิจร่วมกันมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยรับประกันถึงพฤติกรรมของเขา เพียงแต่สถานทูตเมียนมา ได้รับรองว่าไม่มีพฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวหา ส่วนกรณีของลูกเขยตนนั้น ยิ่งไม่มีพฤติกรรมตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เพียงแต่เขาเป็นนักธุรกิจที่มารับช่วงการทำงานต่อ จึงอาจมีสายสัมพันธ์ทางการเงิน จากการที่ทำธุรกิจร่วมกัน

นายอุปกิต กล่าวว่า กรณีของตนถูกเชื่อมโยงเข้ากับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในเมียนมา และการแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจ จะเห็นได้จากการปล่อยข่าวนี้ในเพจ Justice for Myanmar ซึ่งเป็นสื่อต่อต้านรัฐบาลเมียนมา และมีการนำมาขยายต่อโดย บีบีซี รอยเตอร์ ซึ่งก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอย่างนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยให้ข้อสังเกตว่าเรื้องนี้มีมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนเส้นทางการเงินที่มีการเปิดบัญชีและโอนเงินระหว่างประเทศ โดยไม่เข้าบัญชีในไทยนั้น ไม่ใช่สิ่งใหม่และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนักธุรกิจที่ทำธุรกิจในต่างประเทศทั่วไปก็ดำเนินการตามรูปแบบนี้

“ขอยืนยันว่า ผมได้เคลียร์ทุกอย่าง และได้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งหมด ไม่เห็นว่าจะมีอะไร แต่ก็พยายามโยงให้เห็นเสมือนว่าผมทำผิด และสังคมเข้าใจผิด แต่ก็ขอขอบคุณที่ให้โอกาสมาชี้แจง ผมทนได้ทุกเรื่อง และเป็นลูกผู้ชายพอ แต่หากใครกล่าวหา ลูก และวงศ์ตระกูล โดยไม่มีมูลความจริง ก็ต้องใช้สิทธิฟ้องร้อง เพื่อรักษาเกียรติยศ โดยมีข้อเท็จจริงรองรับต่อไป” นายอุปกิต กล่าว.