เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายวิษณุ โพธิ์ใจ รักษาการ ผอ.โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57 อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงถึงกรณีครูในโรงเรียนรายหนึ่ง ได้เข้าไปเคลียร์โดยเป็นคนกลาง ได้เรียกรับเงิน 1.4 แสนบาท จากแม่นักเรียนชายบุกหอพักข่มขืนนักเรียนหญิง ระหว่างกักตัวโควิด ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ปล่อยปละละเลย ตนได้เรียกครูทุกคนในโรงเรียนมาสอบถามความจริง โดยตอกย้ำว่า ขอให้พูดความจริง ทุกคนยืนยันว่า ไม่เคยไปเรียกรับเงินอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ทุกคนก็งงอยู่เหมือนกันว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เรื่องเรียกเงินนี้ ก็ไม่รู้ฝ่ายเด็กผู้ชายเค้าพูดมาเพื่ออะไร หรือว่าเค้าเดือดร้อนหรือกลัวอะไร ตนก็ไม่รู้ เดาใจกันยากเรื่องแบบนี้ เพราะพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะเรื่องวิธีคิด การพูดแบบนี้มันเสียหายกันหมดทั้งโรงเรียน และทางฝ่ายหญิงก็ต้องถือความถูกต้องเป็นหลัก ใครผิดก็ว่าไปตามผิด การที่ครูไม่ได้พูดแล้วเอาไปอ้าง มันก็บอบช้ำกันไปหมด

แม่นร.ชายแฉ! ครูเรียกเงิน 1.4 แสน อ้างเคลียร์จบข่มขืนนร.สาว 16 กักตัวโควิด

“ครูหลายคนเมื่อรู้เรื่องนี้ ขณะผมถามหลายคนก็ร้องไห้ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ส่วนตัวก็เชื่อมั่นในความเป็นครูคงไม่โกหก สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นี้กับทางโรงเรียน ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมาก โดยเฉพาะความหละหลวมต่างๆ จนทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา ตรงนี้ผมขอยอมรับและจะแก้ไขไปสู่ปัจจุบัน ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องระเบียบวินัยตรงนี้ มีบทลงโทษชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับครูที่ละเลยจนเกิดเรื่อง ส่วนทางคดีก็เป็นเรื่องของตำรวจ ก็ว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย” นายวิษณุ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.วัชรินทร์ อินทร์ประพันธ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ภายหลังจากสอบสวนเด็กหญิงผู้เสียหายแล้ว ก็จะออกหมายเรียกเยาวชนผู้ก่อเหตุมาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา ถ้าออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง ยังไม่มา ก็ต้องออกหมายจับ แต่ถ้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จะทำสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งศาลเยาวชนและครอบครัว จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนคุมประพฤติสืบเสาะข้อเท็จจริง ตรงนี้อาจจะใช้เวลาอยู่มาก ก็ขึ้นอยู่การสืบเสาะข้อเท็จจริงของคุมประพฤติ แต่เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้แล้ว ก็จะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ทันที.