เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ, “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย, “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะฮีโร่เหรียญทองเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2020, “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะรุ่น 58 กก.ชาย และ “โค้ชวิชิต” วิชิต สิทธิกัณฑ์ ผู้ฝึกสอน ได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เพื่อรับชื่อไทยอย่างเป็นทางการ
ในการนี้ สมเด็จธงชัย ได้มอบใบชื่ออันเป็นมงคลให้กับ “โค้ชเช” ในชื่อไทยว่า “ชัชชัย” (ชัด-ไช) มีความหมายว่า “มีชัยชนะ” พร้อมทั้งรายละเอียดการประพฤติตามหลักโพชฌงค์ ทั้ง 7 ประการ และ สมเด็จธงชัย ยังได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อทองคำ พร้อมด้วยวัตถุมงคล สมเด็จปรกโพธิ์ หลังพระแม่ธรณีประทับราหู (สมเด็จพระมหารัชมังคลมุนี) หรือ สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ และผ้ายันต์ ให้กับทีมเทควันโดไทยทั้งคณะอีกด้วย
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า วันนี้พาทีมเทควันโดไทย ที่ไปเข้าร่วมแข่งขันการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มากราบนมัสการ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านได้มอบผ้ายันต์ให้กับทีมเทควันโดไทย จนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองมาได้ และช่วงนั้นตนก็ยังได้นำเอาวันเดือนปีเกิดของโค้ชเช มาให้ท่านดูและตั้งชื่อไทยอันเป็นมงคลให้กับโค้ชเช ซึ่งท่านได้ตั้งให้ชื่อว่า “ชัชชัย” ซึ่งวันนี้ท่านได้มอบชื่อให้อย่างเป็นทางการกับชื่อ “ชัยชัย” ที่แปลว่า “ชัยชนะที่มั่งคง” หวังว่าเราจะคว้าชัยชนะไปเรื่อยๆ
“หลังจากนี้เราก็ยังจะต้องนำเอกสารการขอสัญชาติไทย ไปยื่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าไปในกระบวนการทางภาครัฐต่อไป ส่วนทีมเทควันโดไทย ยังคงให้พักผ่อนไปสักระยะ เพราะที่ผ่านมาเราฝึกซ้อมกันอย่างหนักแล้ว ถ้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น เราจะเรียกนักกีฬามาเก็บตัวฝึกซ้อมกันใหม่
ขณะที่ โค้ชเช ยอง ซอก เผยว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก เป็นเกียรติมากจริงๆ อยู่ไทยมา 20 ปีแล้ว ความรู้สึกเหมือนเป็นคนไทย แต่วันนี้ได้ชื่อไทยจริงๆ แล้วตนรู้สึกพูดไม่ออก ดีใจมากจริงๆ ซึ่งชื่อ “ชัชชัย” ตนเป็นผู้เลือก ก่อนหน้านี้ สมเด็จธงชัย ให้ชื่อมา 3 ชื่อ แล้วให้ตนเลือก ซึ่งตนเลือกชื่อนี้ที่เข้ากับนามสกุลของตน “ชัชชัย เช” และต่อไปก็เหลือแต่การได้สัญชาติไทย ถ้าได้เป็นคนไทยอย่างเต็มตัวแล้ว การปฏิบัติตัวก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีเปลี่ยนแปลงชีวิตอะไรมาก ส่วนในอนาคตครอบครัวของตนก็คงให้ลูกชายได้เป็นคนไทยด้วยอีกคนเพราะลูกชายก็รักเมืองไทยมากเช่นกัน
