สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่า ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า กองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยเมืองลีมัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองยุทธศาสตร์ของจังหวัดโดเนตสก์ ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศ จากการอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย


การประกาศดังกล่าวของรัฐบาลเคียฟเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศการถอนกำลังพลออกจากเมืองลีมัน “เนื่องจากภัยคุกคามที่อยู่รายล้อม” อนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียอาศัยเมืองลีมันเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์

รถหุ้มเกราะคันหนึ่งของกองทัพรัสเซีย จอดทิ้งไว้ในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน


ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ยกย่องความสำเร็จของกองทัพในการกระชับพื้นที่เมืองลีมัน ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุด นับตั้งแต่เปิดฉากปฏิบัติการโต้กลับเมื่อเดือนที่แล้ว และจะเป็นการเปิดเส้นทางเข้าสู่จังหวัดลูฮันสก์ซึ่งอยู่ติดกัน


ทั้งนี้ เซเลนสกีลงนามในเอกสาร เพื่อนำยูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หรือประมาณครึ่งปี หลังการนำรัฐบาลเคียฟสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ( อียู ) ความเคลื่อนไหวดังกล่าว“เกิดขึ้นอย่างประจวบเหมาะ” กับการที่รัสเซียประกาศผนวกรวมดินแดน 4 แห่งในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคียร์ซอน และซาโปริชเชีย โดยอ้างเหตุผลตามการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่


แม้ เซเลนสกี ยืนยันว่า ยูเครนยังคงมีความพร้อมและมุ่งมั่นเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับรัสเซีย “บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการให้เกียรติ” ที่รวมถึงการเจรจาอย่างสันติ อย่างไรก็ตาม การพบหารือกับรัฐบาลมอสโก ต้องไม่ใช่การที่รัสเซียมีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นผู้นำรัสเซียอีกต่อไป.

เครดิตภาพ : REUTERS