สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวถึงสถานการณ์ประท้วงตามเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศ ที่มีชนวนเหตุมาจากการเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อมินี หญิงสาวชาวอิหร่าน วัย 22 ปี เสียชีวิตระหว่างอยู่ภายในการควบคุมของตำรวจ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา หรือ 3 วันหลังถูกจับในกรุงเตหะราน ฐานไม่สวมฮิญาบคลุมศีรษะ และแต่งกาย “ไม่สุภาพ” ว่าเป็น “การจลาจลที่จัดตั้งโดยสหรัฐและอิสราเอล”

ตำรวจปราบจลาจลของอิหร่านขี่จักรยานยนต์ ลาดตระเวนในกรุงเตหะราน


แม้ คาเมเนอี เน้นว่า เขามีความเสียใจอย่างสูงสุดต่อการเสียชีวิตของอมินี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสนับสนุนการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ในการปราบปรามสถานการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ ซึ่งลุกลามขยายวงจากการประท้วงเรื่องอมานี เป็นการเรียกร้องให้ยุติระบอบการปกครองของอยาตอลเลาะห์


ทั้งนี้ รัฐบาลเตหะรานรายงานจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ “เป็นจำนวนมาก” และผู้ประท้วงเสียชีวิต “มากกว่า 40 ราย” แต่ข้อมูลจากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายแห่งระบุว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตมากกว่า 130 ราย และถูกจับกุมอีกหลายพันคน

สตรีชาวอิหร่านสวมผ้าคลุมศีรษะ เดินอยู่บนถนนสายหนึ่ง ในกรุงเตหะราน


ขณะที่ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าสหรัฐ “มีความวิตกกังวลอย่างยิ่ง” ต่อการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่านยกระดับมาตรการปราบปรามการประท้วง และยืนยันว่า รัฐบาลวอชิงตัน “อยู่เคียงข้างสตรีชาวอิหร่านผู้กล้าหาญ” ส่วนรัฐบาลอิสราเอลยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ


อนึ่ง กระทรวงการคลังของสหรัฐ ขึ้นบัญชีดำสำนักงานตำรวจศีลธรรมอิหร่าน เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ “ต้องรับผิดชอบโดยตรง” ต่อการเสียชีวิตของอมินี แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายอมานีด้วยการจับศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับรถสายตรวจ แล้วใช้กระบอกทุบตีไปที่ศีรษะของหญิงสาว ตามที่สื่อหลายแห่งกล่าวอ้าง โดยทางการอิหร่านยืนยันข้อมูลของตัวเองว่า อมินีเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน.

เครดิตภาพ : REUTERS