เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวโน้มการยุบสภาภายหลังการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ “เอเปค” ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีความเห็นใดๆ ในทางที่จะนำไปสู่การยุบสภา ตนคิดว่าอย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คงได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมตัวมานานพอสมควรแล้ว ทยอยเดินหน้าเปิดตัวในหลายจังหวัด ขณะที่พรรคอื่นยังไม่ขยับ หลายจังหวัดมาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องนโยบายพรรค ได้ดำเนินการไปเกือบ 80-90% เหลือรอรับความฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นถ้าถามว่า พร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งหรือไม่ คำตอบสุดท้ายคือประชาธิปัตย์พร้อม ส่วนเรื่องกระแสตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากการลงพื้นที่ ตนมั่นใจว่าเสียงตอบรับจากประชาชนยังดีอยู่ และจะดีขึ้นกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ในทุกภาค ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. นี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตนจะนำ “จุรินทร์ ออนทัวร์ นครสวรรค์” ไปเปิดตัวผู้สมัครและทยอยเปิดตัวในพื้นที่อื่นๆ ด้วยเป็นลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีกำหนดการเดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนทุกภาคทั่วประเทศ สำหรับภาคใต้ ได้วางกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วว่า จะไปออนทัวร์กี่จังหวัด ซึ่งจะไปจนครบ รวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย
“พื้นที่กรุงเทพฯ จะมี 3 ขุนพลหลัก ประกอบด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ น.ส.วทันยา บุนนาค และยังมีคนใหม่ๆ อีกหลายคน รวมทั้งผู้สมัครคนสำคัญๆ ในการการรุกพื้นที่ กทม. เพื่อเพิ่มคะแนนนิยมจากประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งในส่วน กทม. ผมมั่นใจว่าดีกว่าคราวที่แล้ว ภาคอื่นๆ มีคนรับผิดชอบเช่นเดียวกัน ส่วนอีกวันสองวันนี้ ท่านองอาจ จะเปิดภารกิจสำคัญที่พรรคจะมอบหมายให้นายสุชัชวีร์ และ น.ส.วทันยา ต่อไปในสัปดาห์หน้า”
เมื่อถามถึงการที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถึงเวลาคงจะดำเนินการในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาความชัดเจน เป็นรูปธรรมได้ปรากฏแล้ว จากการที่เราเข้าร่วมรัฐบาลตลอด 3 ปีครึ่ง ผลงานประชาธิปัตย์เหมือนที่ตนได้เคยกล่าวว่ามันเกินตัว เพราะเรามี ส.ส.เพียง 52 คน แต่ผลงานพรรค ก็เชื่อว่าหากประเมินตามจำนวนเสียงก็เกิน 52 เสียงแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าไปดูแลราคาพืชผลการเกษตร สำหรับผลไม้ก็มีราคาดีมาก รวมถึงพืชเกษตร 5 ชนิด ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด มีราคาที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทุกตัว แม้อาจจะหย่อนลงบ้างตามสถานการณ์โลก ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ และผลผลิตโลกรวมกันด้วย มีผลกระทบต่อราคาพืชเกษตรในประเทศ และกระทบทั่วโลก แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี