จากกระแสในโลกออนไลน์ที่มีการแชร์ภาพชุดพนักงานกวาดฯ ชุดใหม่ของกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ผ้าที่ใช้มาตัดเป็นชุดนั้น ผลิตมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิล วันนี้ทีมข่าวเดลินิวส์ จึงได้ขอพูดคุยกับพี่ๆ นักกวาด “พี่น้อย พี่อมร และพี่ทองสุข” 3 สาวในทีมพนักงานกวาด สำนักงานเขตดินแดง ถึงชุดดังกล่าวว่า ชุดใหม่กับชุดเก่านั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรเมื่อใส่ทำงาน

โดยพี่น้อย บอกเล่าให้ฟังว่า ชุดสีเขียวสะท้อนแสงที่ใส่อยู่นี้ ทำมาจากพลาสติกทั้งเสื้อและกางเกง ตอนแรกยังไม่ทราบว่า ชุดที่ได้มา ทำมาจากพลาสติก แต่พอทราบแล้วก็รู้สึกดีใจที่คนไทยเราสามารถนำวัสดุอุปกรณ์ที่ยังมีประโยชน์นำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งและเป็นประโยชน์สำหรับพวกเราด้วย เพราะ เวลาใส่แล้วเป็นสิ่งที่เด่นมากและสะท้อนแสง ทำให้ประชาชนหรือผู้ที่สัญจรไปมาสามารถมองเห็นเราได้ไกลมาก อีกอย่างในช่วงเวลากวาดในตอนกลางคืน หรือเช้ามืด ทำให้คนเห็นได้ง่าย เพราะเป็นสีสะท้อนแสง โดยสวมใส่มาทำงานได้ราว 2 สัปดาห์แล้ว โดย 1 สัปดาห์ จะใส่ 3 วันคือ จันทร์-พุธ-ศุกร์

พี่น้อย เล่าต่อว่า หากเวลาปกติที่ไม่มีแดด ชุดนี้ใส่แล้วจะไม่ร้อน แต่ หากเจอแดดแรงๆ ก็จะทำให้อบร้อน เพราะผ้าไม่ระบายเหงื่อ ส่วนเวลาฝนตก ชุดนี้จะบาง แนบเนื้อทั้งเสื้อและกางเกง จึงทำให้เราต้องใส่เสื้อผ้าข้างในซ้อนทับอีกชั้นหนึ่ง แต่เนื้อผ้าไม่แข็ง เวลาปฏิบัติหน้าที่ก็สามารถทำได้สะดวก แต่ถ้าหากอยากให้เพิ่มเติม อยากให้เพิ่มกระเป๋าบริเวณเสื้อ หรือช่องใส่เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ส่วนตัวเช่น มือถือ เพิ่ม เมื่อเวลาทำงานจะได้สะดวก ไม่ต้องหาถุงผ้ามาใส่อุปกรณ์เหล่านั้นแยก ก็เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน  

สำหรับข้อเปรียบเทียบระหว่างชุดแบบใหม่กับชุดแบบเก่านั้น พี่น้อยบอกว่า มีดีกันคนละอย่าง เพราะอย่างชุดเก่าเราคือภาคสนามเมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ก็สามารถยก หรือหยิบจับอะไรได้ทันที ไม่ต้องกลัวเลอะ เพราะมีเอี๊ยมป้องกันอีกชั้น แต่สำหรับชุดใหม่นั้นต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น หากต้องเลือกชุดที่สวมใส่ในภาคสนามนั้น ชุดแบบเก่าจะเหมาะกว่า แต่ชุดแบบใหม่ เหมาะสำหรับใส่ออกงานที่เป็นทางการ หรือกิจกรรมทั่วๆ ไป เพราะชุดสวยงาม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงกลางเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา กทม. โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ รับมอบชุดสะท้อนแสงตัวอย่าง สำหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความสะอาด จำนวน 200 ชุด ตามโครงการมือวิเศษกรุงเทพ “แยกเพื่อให้…พี่ไม้กวาด จากภาคเอกชนที่สนับสนุนงบประมาณในการตัดเย็บชุดดังกล่าว จากนั้นได้นำส่งมอบชุดให้พนักงานกวาด สำนักงานเขตดินแดง เป็นเขตนำร่อง เพื่อทดลองสวมใส่ปฏิบัติงานจริง ซึ่งหากชุดดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีการประเมินต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อนำผลไปปรับปรุง

และจะขยายการทดลองใช้ไปยังเขตที่เหลือ โดยให้สวมใส่ปฏิบัติงาน 3 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานเขต ได้ทยอยแจกจ่าย แต่ยังไม่สามารถสวมใส่ได้ทุกคน เนื่องจากขนาดยังไม่สามารถสวมใส่ได้ ทั้งนี้ชุดสะท้อนแสงนี้ จะมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1 ปี ตามอายุของแถบสะท้อนแสง

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการมือวิเศษกรุงเทพ “แยกเพื่อให้…พี่ไม้กวาด” เป็นการต่อยอดความสำเร็จของโครงการ “แยกขวดช่วยหมอ ฝาก กทม. ก็ได้นะ” โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการความร่วมมือกลุ่มพันธมิตรเครือข่ายสังคมลดขยะ Less Plastic Thailand, สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEl), กลุ่ม PPP Plastics, โครงการวน, สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE), Youเทิร์u by GC, และ Z-Safe ขยายผลการช่วยเหลือจากกลุ่มอาชีพสาธารณสุข ไปสู่การช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอื่น ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ซึ่ง แนวคิดหลักของโครงการมือวิเศษกรุงเทพ “แยกเพื่อให้…พี่ไม้กวาด” คือการส่งเสริมการจัดการขยะทั้งที่บ้านและพื้นที่สาธารณะด้วย “มือวิเศษ” ของทุกคน ดังนี้ 1. การทิ้งขยะให้ลงถัง เพื่อลดภาระของ “พี่ไม้กวาด” 2. การนำขยะพลาสติกขวดเพ็ทใส เบอร์ 1 (PET) เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล แปรรูปเป็นชุดปฏิบัติงานที่มีแถบสีสะท้อนแสง มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล นำร่อง จำนวน 1,000 ชุด 3. การนำขยะพลาสติกขุ่น เบอร์ 2 (HDPE) เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล แปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างหรือการจัดทำพื้นที่คืนพลาสติก เพื่อนำไปติดตั้งจุดรับบริจาค จำนวน 52 จุดของกรุงเทพมหานคร 4. การนำพลาสติกยืด เช่น ถุงพลาสติก บับเบิลกันกระแทก เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเป็นถุงขยะ เพื่อส่งเสริมวินัยการแยกขยะครัวเรือน ทั้งนี้พลาสติกรีไซเคิลที่เหลือจากการส่งแปรรูป จะเปลี่ยนเป็นค่าแปรรูปอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงเงินสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการรักษาความสะอาดของกรุงเทพมหานครต่อไป

โดยผู้สนใจบริจาคพลาสติกเพื่อเข้าร่วมโครงการมือวิเศษกรุงเทพ “แยกเพื่อให้…พี่ไม้กวาด” สามารถนำขวดเพ็ทใส ขวดขุ่น และพลาสติกยืด ส่งได้ที่จุดรับบริจาคทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วย บริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า และดินแดง รวมถึงบริเวณสำนักงานเขต 50 เขต ของกรุงเทพมหานคร.