จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทองร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ถนนนาคนิวาส ซอย 17 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์สูง 3 ชั้น อยู่หน้าปากซอยนาคนิวาส 17 ชั้นล่างเปิดเป็นร้านทอง ซึ่งมีกรงเหล็กอะลูมิเนียมติดตั้งบริเวณตู้ทอง โดยเป็นชายผิวดำ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า โดยทำทีเป็นลูกค้าเดินเข้ามาซื้อทอง ก่อนจะเปิดชายเสื้อเห็นเป็นปืนด้ามสีดำเพื่อข่มขู่พนักงานให้หยิบทองส่งมาให้ จนได้ทองหนัก 2 สลึง ไปทั้งหมด 12 เส้น น้ำหนักรวม 6 บาท จากนั้นได้ขี่ จยย. หลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมตัว จากการสอบสวนทราบว่าเป็นวิน จยย. แต่อ้างว่าไม่เคยก่อเหตุชิงทองแต่อย่างใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ต.ค. พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้ปืนชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ โดยของกลางที่นำมาแถลง มีปืน จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และชุดที่ใช้ในวันก่อเหตุ รวมถึงสร้อยคอทองคำที่ได้มาจากการจี้ชิงทรัพย์

โดย พล.ต.ต.สุระพรรณ กล่าวว่า พฤติการณ์ของคนร้าย ในตอนแรกทำทีเป็นลูกค้าเดินไปซื้อทอง โดยเข้ามาขอดูทอง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถกชายเสื้อและจับด้ามปืนสีดำ พร้อมข่มขู่ให้ส่งทองมา พนักงานจึงได้ส่งทองถาด 2 สลึง จำนวน 12 เส้น (เป็นเงิน 200.280 บาท) ที่วางอยู่บริเวณใกล้เคียงให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายได้ขี่ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเข้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ทั้งนี้ นายกิตติพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพขี่ จยย.รับจ้าง สำหรับสาเหตุนั้น เนื่องจากตนมีหนี้สินจำนวนมาก รายได้ไม่เพียงพอ โดยภายหลังก่อเหตุได้นำสร้อยทอง 3 เส้น ไปจำนำที่โรงรับจำนำในซอยลาดพร้าว 101 ได้เงินมา 40,000 บาท เพื่อนำมาใช้หนี้ ส่วนที่เหลืออีก 8 เส้น เจ้าหน้าที่ได้ตามยึดคืนมาได้จากที่บ้านพักในซอยลาดพร้าว 87

รวบวินจยย.ต้องสงสัยชิงทอง 6 บ. ปฏิเสธลั่นบอกแค่ ‘หน้า-รถ’ คล้ายของคนร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ผู้ต้องหามีการยกมือไหว้พนักงานในร้านทอง ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ปืนและใช้ยานพาหนะในการหลบหนี