ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจอย่างมากมายสำหรับกรณีมีผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ช่วงหนึ่งขณะ น้าแอ๊ด คาราบาว ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังเมืองไทย ระเบิดอารมณ์ออกมาบนเวทีคอนเสิร์ต ถึงกับสวดยับบิ๊กข้าราชการอย่างดุเดือด จนบรรดาคนดูถึงกับตกใจสอบถามกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนอัดคลิปช่วงขณะเกิดเหตุการณ์บนเวทีเอาไว้ โดยน้าแอ๊ด มีทีท่าค่อนข้างโมโหอย่างมาก จนถึงกับเปรยออกมาว่า “เล่นไม่ได้แล้วโมโห” ซึ่งหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น จนต่อมา นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวผ่านคลิปวิดีโอ พร้อมมอบหมายให้นิติกรชำนาญการ สำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ น้าแอ๊ด คาราบาว ซึ่งทำให้หลายคนวิจารณ์เรื่องราวของศิลปินดังอย่างต่อเนื่อง

โดยหลายคนในโลกออนไลน์พยายามรวบรวมเหตุการณ์ที่น้าแอ๊ดเคยฉุนและเปิดวาทะเดือดต่อว่าคนอื่นมาแล้ว โดยสรุปได้ดังต่อไปนี้

เหตุการณ์ที่ร้านอาหาร อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 วงคาราบาวได้ไปร้องเพลงแล้วตะโกนด่าเจ้าหน้าที่รัฐด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า “มึXอย่ามาจ้องปิดสถานบริการอย่างเดียว มึXแน่จริงมึXไปจับโจรสิ ไอXเหีX ไม่ใช่มาปิดสถานบริการ ควXไอXเด็กเมื่อวานซืน ไอXแยXXX” ก่อนที่ต่อมาก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ปลัดอำเภอแม่สอด ถูกย้ายไปยังอำเภอท่าสองยาง ขณะที่คลิปดังกล่าวก็ได้ถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์กันในวงกว้างและวิจารณ์คำพูดของน้าแอ๊ดอย่างดุเดือด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น วันที่ 19 ม.ค. 63 น้าแอ๊ด คาราบาว ก็ได้ส่งเพลง “รวมใจไทยข้ามโควิด-19” ลงเผยแพร่ในยูทูบ พร้อมกับโพสต์ข้อความประกอบบทเพลงดังกล่าวว่า “เมื่อประเทศเผชิญภัยโรคระบาด ไม่ใช่แค่รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ คุณหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่ต้องทำหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อยุติโรคระบาด แต่ประชาชนทุกคนเองก็ต้องช่วยกัน ดูแลตัวเอง ทำตามคำแนะนำเพื่อป้องกันตัวเองจากโรคร้ายที่ยังไม่มีวิธีการรักษา ในความตึงเครียดที่ทุกคนทุกฝ่ายต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า กำลังใจคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนไทยก้าวไปข้างหน้าและเอาชนะภัยโควิด-19 นี้ให้ได้ แอ๊ด คาราบาว จึงได้ตั้งใจสร้างสรรค์บทเพลง “รวมใจไทยข้ามโควิด–19” มอบเป็นขวัญและกำลังใจให้กับคนไทยทุกคน”

โดยเพลงดังกล่าวได้ถูกเขียนจากปลายปากกาของ แอ๊ด คาราบาว แต่งขึ้นมาเพื่อรณรงค์ให้ความรู้ ตระหนักถึงการดูแลตัวเอง ป้องกันและระวังในการใช้ชีวิตในสถานการณ์ขับขันอย่างทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการให้ทุกคนหันมาช่วยกันเพื่อสาธารณสุขทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง รวมถึงช่วยกันดูแลสังคม ไม่เห็นแก่ตัว และเป็นกำลังใจให้คนเบื้องหลังทุกคน ซึ่งทำให้หลายคนยิ่งงงสับสันกับพฤติกรรมของน้าแอ๊ดกันอย่างมากมาย

จากนั้นเป็นประเด็นที่คนย้อนกลับไปดูรายการ “คุยกับอุ๋ย” ของนักร้องดัง “อุ๋ย บุดด้าเบลส” ที่ชวนน้าแอ๊ด คาราบาว มาออก โดยมีบางช่วงบางตอนน้าแอ๊ดเล่าว่า “อุดมการณ์ความคิดเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตเพื่อประชาชน ถามว่า 40-50 ปีก่อนเคยต่อยคนดูไหม เคย 2-3 ครั้ง โดดลงไปเตะ สมัยก่อนเป็นคนใจร้อน เลยต้องใช้ธรรมะช่วยเยอะ ทุกวันนี้ ถ้าไม่มีธรรมะ มันไม่มีทางออกมันตัน คือ ชีวิตคนเรามาถึงจุดหนึ่งถึงแม้คุณจะรวยล้นฟ้าล้นแผ่นดิน คุณจะเก่งสามารถทำมาหากิน แต่งเพลงร้องเพลงอะไร แต่ถ้าคุณขาดธรรมะ เวลาชีวิตคุณมีอุปสรรค คุณจะไปไม่เป็น แล้วคุณจะเข้าหายาเสพติดเพื่อให้มันลืมไป ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการถมปัญหาเพิ่มเข้ามาอีก แต่ธรรมะถ้าเราเข้าใจมันจริงๆว่า คือ อะไร แล้วเข้าไปศึกษาใช้เวลากับเขาสักหน่อย รับรองคุณจะมีชีวิตที่ตามครรลองครองธรรม”

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 วงคาราบาวดูร้าวหนักหนักมากหลัง เทียรี่ เมฆวัฒนา หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของวงดนตรีเพื่อชีวิตวงคาราบาว ได้โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กอย่างรัวๆ ถึง 5 สเตตัส โดยระบุว่า “ไม่ต้องไปสอนใคร แค่สอนตัว ก็พอแล้วคับ สำหรับผม MONEY IS NOTHING คับ , อะไรที่มันปลอม ก็ปลอมอยู่ดี อะไรที่มันจริง มันก็จริงอยู่ดีคับ, บ้านใหญ่ใช่ใจโตคับ, ตั้งแต่วันนี้ไป ผมไม่ทำตามคำ สั่งของพี่แอ้ดอีกต่อไปนะคับ และ แล้วเมื่อถึงเวลา จะพูดความจริงนะคับ” ทำเอาหลายคนจับตามองความสัมพันธ์ในวงมาตลอด แต่ก็ยังไม่ได้มีการอัพเดทอะไรเพิ่มเติมมากนัก ทำให้เป็นปริศนาอยู่ตลอดว่าจริงๆแล้ว วงคาราบาวสมาชิกนั้นแตกความรักกันจริงหรือเปล่า หรือแค่โพสต์เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น

จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์ของ น้าแอ๊ด คาราบาว กับบิ๊กข้าราชการสุพรรณบุรี ทำให้หลายคนพากันวิจารณ์เรื่องพฤติกรรมของศิลปินดังอย่างต่อเนื่อง บ้างก็มองว่าไม่เหมาะสมมานานแล้ว บ้างก็บอกว่าควรปรับปรุบตัวให้ได้ เป็นต้น

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Carabao official